Categories
รีวิว

สมาร์ทวอทช์ไอโฟน รุ่นไหนดีที่สุด? ข้อมูลที่มาช่วยตัดสินใจรับรองไม่ผิดแน่นอน!

apple smart watch ได้รับการยอมรับว่าเป็น สมาร์ทวอทช์ไอโฟน อันดับหนึ่ง โดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้ iPhone ซึ่งแตกต่างจากอุปกรณ์สวมใส่ประเภทอื่น แอปเปิ้ลวอทช์ได้รับการออกแบบมาตั้งแต่ต้นเพื่อให้ผสานเข้ากับระบบนิเวศของ iPhone ได้อย่างราบรื่น ทำให้เชื่อมต่อและสะดวกอย่างไม่มีใครเทียบได้

 ถ้านึกถึงสมาร์ทวอทช์ที่เข้ากันได้เป๊ะกับ iPhone สุด ๆ คงหนีไม่พ้นนาฬิกา apple wastch เลยใช่ไหม? เพราะมันถูกออกแบบมาให้ใช้งานคู่กับ iPhone ได้อย่างลื่นไหลราวกับเป็นของคู่กัน ไม่ว่าจะตอบแชท LINE หรือจะเช็คอีเมลก็ทำได้ง่ายดายบนข้อมือเลยล่ะ

ตลอดหลายปีที่ผ่านมาแอปเปิ้ล ได้สร้างสรรค์รุ่นต่าง ๆ ขึ้นมาอย่างพิถีพิถัน โดยแต่ละรุ่นได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่แตกต่างกัน ตั้งแต่แอปเปิ้ลวอทช์อัลต้า ระดับไฮเอนด์ที่ออกแบบมาสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัย ไปจนถึงแอปเปิ้ลวอทช์ SE ที่ราคาประหยัด 

สุดยอด สมาร์ทวอทช์ไอโฟน ที่ต้องมี! กับฟีเจอร์ใหม่ที่คุณต้องร้องว้าว

มีรุ่นต่าง ๆ สำหรับผู้ใช้ทุกประเภทของ สมาร์ทวอทช์ไอโฟน มีหลายรุ่นให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรุ่นท็อปอย่างแอปเปิ้ลวอทช์อันตร้า  สำหรับสายลุย หรือรุ่นราคาเบา ๆ อย่างแอปเปิ้ลวอทช์ SE แต่ละรุ่นก็มีฟีเจอร์เด็ด ๆ แตกต่างกันไป จะเลือกตัวไหนดี? งงใช่ไหม? ไม่ต้องห่วง! บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกทุกโมเดล เพื่อให้คุณเลือกได้ตรงใจที่สุด

การทราบถึงความแตกต่างระหว่างรุ่นเหล่านี้ถือเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้รับคุณสมบัติที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณมากที่สุด ก่อนจะตัดสินใจซื้อ สมาร์ทวอทช์ไอโฟน สักเรือน สิ่งสำคัญคือเราต้องรู้ก่อนว่าแต่ละรุ่นมีอะไรแตกต่างกันบ้าง เพื่อให้เลือกได้ตรงกับไลฟ์สไตล์และงบประมาณของเราที่สุด

เราได้จัดอันดับรุ่นเหล่านี้ตามปัจจัยต่าง ๆ เช่นประสิทธิภาพโดยรวม ชุดคุณสมบัติ คุณภาพการออกแบบ และราคา เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ว่าคุณจะมีความต้องการอย่างไร คุณก็จะพบสมาร์ทวอทช์ที่สมบูรณ์แบบและเข้ากับประสบการณ์ iPhone ของคุณได้อย่างลงตัว 

ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปดูกันว่าแอปเปิ้ลวอทช์ แต่ละรุ่นนั้นมีอะไรเด็ด ๆ บ้าง ทั้งเรื่องฟีเจอร์, ดีไซน์ และราคา เพื่อให้คุณเลือกได้ว่ารุ่นไหนตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคุณมากที่สุด บอกเลยว่าเลือกไม่ผิดแน่นอน!

นาฬิกา apple watch

อยากรู้ไหมว่า Apple Watch Series 9 ดีกว่ารุ่นอื่น ๆ ยังไง?

 apple smart watch Series 9 คือรุ่นเรือธงล่าสุดของแอปเปิ้ลที่มาพร้อมความก้าวหน้าล้ำสมัยหลายประการ ตามที่คาดไว้จากการที่แอปเปิ้ลมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง Series 9 จึงนำเสนอการปรับปรุงที่สำคัญ ทั้งในด้านประสิทธิภาพและการใช้งาน 

โดยขับเคลื่อนด้วย SiP (System in Package) S9 ใหม่ ทำให้ซีรีส์ 9 มีความเร็วในการประมวลผลที่เร็วขึ้น ทำให้การทำงานหลายอย่างพร้อมกันราบรื่น และตอบสนองได้ดีกว่าที่เคย

สมาร์ทวอทช์ไอโฟน ซีรีส์ 9 มาแรง! รุ่นใหม่ล่าสุดตัวนี้มาพร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำ ทำให้ทุกอย่างเร็ว แรง และลื่นไหลกว่าเดิม ไม่ว่าจะเล่นเกม เลื่อนดูโซเชียล หรือติดตามสุขภาพ ก็ตอบสนองได้ทันใจทุกการสัมผัส

คุณสมบัติที่โดดเด่นอย่างหนึ่งของ Series 9 คือความสามารถในการติดตามสุขภาพขั้นสูง โดยพัฒนาจากชุดเครื่องมือด้านสุขภาพที่มีอยู่ของแอปเปิ้ล ปัจจุบันนาฬิกาเรือนนี้ ประกอบด้วยการตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ที่ได้รับการปรับปรุง การวัดออกซิเจนในเลือดที่แม่นยำยิ่งขึ้น และอัลกอริทึมการติดตามการนอนหลับรุ่นใหม่ที่ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับรูปแบบการนอนหลับของคุณ

นอกจากจะเท่แล้วแอปเปิ้ลวอทช์ซีรีส์ 9 ยังใส่ใจสุขภาพของคุณสุด ๆ เลยนะ ไม่ว่าจะเป็นการวัดใจเต้น, เช็คค่าออกซิเจนในเลือด หรือแม้แต่บอกได้เลยว่าคุณนอนหลับดีแค่ไหน บอกเลยว่ามีฟีเจอร์เจ๋ง ๆ ให้คุณได้ลองเล่นอีกเพียบ!

apple smart watch Series 9 มาพร้อมจุดแข็งที่โดดเด่นหลายประการ โปรเซสเซอร์ S9 ช่วยให้ประสิทธิภาพรวดเร็ว ช่วยให้ผู้ใช้จัดการทุกอย่าง ตั้งแต่การแจ้งเตือนไปจนถึงการติดตามการออกกำลังกายได้อย่างง่ายดาย จอภาพที่เปิดตลอดเวลามีความสว่างกว่าเดิม ทำให้อ่านได้ง่ายขึ้นภายใต้สภาพแสงต่าง ๆ โดยไม่กระทบต่ออายุแบตเตอรี่

สิ่งที่ชอบที่สุดในแอปเปิ้ลวอทช์ ซีรีส์ 9 คือความลื่นไหลในการใช้งาน และหน้าจอที่สว่างชัดเจน แม้จะอยู่กลางแจ้งก็ยังมองเห็นได้ชัดเจน แถมแบตเตอรี่ยังอยู่ได้นาน ทำให้ไม่ต้องมานั่งชาร์จบ่อย ๆ อีกด้วย

แอปเปิ้ลวอทช์ซีรีส์ 9 เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ใช้ระดับสูง และผู้ที่ชื่นชอบเทคโนโลยีที่ต้องการเทคโนโลยีล่าสุดและประสิทธิภาพระดับสูงสุด หากคุณเป็นคนที่ชอบฟีเจอร์ล้ำสมัยที่สุดอยู่ในมือ ไม่ว่าจะเป็นการติดตามสุขภาพขั้นสูงหรือการผสานรวมที่ราบรื่นกับระบบนิเวศของแอปเปิ้ลที่กว้างขึ้น 

สมาร์ทวอทช์ไอโฟนซีรีส์ 9 ก็ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ด้วยโปรเซสเซอร์อันทรงพลัง ชุดคุณสมบัติที่ครอบคลุม และการออกแบบที่เพรียวบาง จึงเป็นสมาร์ทวอทช์สำหรับผู้ที่ต้องการสิ่งที่ดีที่สุด ทั้งในด้านการใช้งานและสไตล์ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักกีฬาที่ต้องการความแม่นยำ ในการติดตามการออกกำลังกายหรือมืออาชีพ ที่ต้องการความสะดวกสบายของแอปและการแจ้งเตือน 

Series 9 ก็มอบประสบการณ์ที่ไม่มีใครเทียบได้ ถ้าคุณเป็นสายเทคที่ชอบอะไรใหม่ ๆ หรือเป็นคนที่รักสุขภาพและการออกกำลังกายแอปเปิ้ลวอทช์ซีรีส์9 คือตัวเลือกที่ใช่เลย! ด้วยฟังก์ชันที่ครบครัน ดีไซน์สวยงาม และประสิทธิภาพที่เหนือชั้น ทำให้ซีรีส์ 9 เป็นมากกว่านาฬิกา แต่เป็นเพื่อนคู่ใจที่พร้อมจะไปกับคุณทุกที่ทุกเวลา

สมาร์ทวอทช์ ไอ โฟน ราคา

 

Apple Watch SE 2024 เป็นรุ่นของ apple watch ราคาถูกสุด แบบราคาเบา ๆ แต่ฟีเจอร์จัดเต็ม!

อย่างแอปเปิ้ลวอทช์ SE (รุ่นปี 2024) มีความสมดุลระหว่างสมาร์ทวอทช์ไอโฟนราคา ที่เอื้อมถึงและฟังก์ชันที่จำเป็น ทำให้เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าสู่ระบบปฏิบัติการของ สมาร์ทวอทช์ไอโฟน โดยไม่ต้องจ่ายแพง แม้ว่าอาจไม่มีคุณลักษณะขั้นสูงทั้งหมดของ ซีรีส์ 9 

แต่รุ่น SE ยังคงมอบความสามารถหลักที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่จะพบว่ามีค่าอย่างยิ่ง SE มาพร้อมกับ S8 SiP จึงมอบประสิทธิภาพที่น่าประทับใจสำหรับงานประจำวัน เช่นการแจ้งเตือนข้อความ การติดตามการออกกำลังกาย และการใช้งานแอป 

ถ้าอยากได้แอปเปิ้ลวอทช์ดี ๆ สักเรือน แต่ไม่อยากจ่ายแพงมาก? สมาร์ทวอทช์ไอโฟน รุ่น SE รุ่นปี 2024 คือคำตอบ! แม้จะราคาเบา ๆ แต่ก็มาพร้อมฟังก์ชันครบครัน ทั้งแจ้งเตือนข้อความ, ติดตามการออกกำลังกาย หรือจะเล่นแอปต่าง ๆ ก็ทำได้ลื่นไหลเลยล่ะ

หนึ่งในคุณสมบัติหลักของ SE คือการติดตามการออกกำลังกายและสุขภาพ ซึ่งรวมถึงการตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ การแจ้งเตือนอัตราการเต้นของหัวใจสูงและต่ำ และการตรวจจับการล้ม ทำให้ผู้ใช้ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับความเป็นอยู่ของตนเอง แอป Activity ควบคู่ไปกับโหมดการติดตามการออกกำลังกายมาตรฐาน 

ทำให้เป็นเพื่อนร่วมทางที่เชื่อถือได้ สำหรับผู้ที่ต้องการรักษาไลฟ์สไตล์ที่มีสุขภาพดี แม้ว่าจะไม่มีเซ็นเซอร์ ECG และออกซิเจนในเลือดที่พบในรุ่นระดับสูง แต่ SE ยังคงโดดเด่นในด้านการนับก้าวที่แม่นยำ การติดตามแคลอรี่ และการติดตามการออกกำลังกาย

สำหรับแอปเปิ้ลวอทช์ เอสอี รุ่นนี้ช่วยดูแลสุขภาพของคุณได้ดีเลยล่ะ ไม่ว่าจะเป็นการนับก้าว, วัดใจเต้น หรือแม้แต่แจ้งเตือนถ้าใจเต้นผิดปกติ ก็ทำได้หมด แถมยังช่วยติดตามการออกกำลังกายของคุณได้อีกด้วย แม้จะไม่มีฟังก์ชันล้ำ ๆ เหมือนรุ่นพี่ แต่ก็เพียงพอสำหรับการดูแลสุขภาพในชีวิตประจำวันแล้ว

นอกจากแอปเปิ้ลวอทช์ เอสอี(รุ่นปี 2024) ได้รับการออกแบบมาให้คุ้มค่า และจุดแข็งของนาฬิการุ่นนี้ คือมอบประสบการณ์สมาร์ทวอทช์ ที่แข็งแกร่งโดยไม่ต้องจ่ายแพง ด้วยโปรเซสเซอร์ S8 ที่มีประสิทธิภาพ ผู้ใช้จึงเพลิดเพลินกับประสิทธิภาพที่ราบรื่น 

ไม่ว่าจะใช้เพื่อติดตามการออกกำลังกาย แจ้งเตือน หรือจัดการแอป จุดเด่นอีกประการหนึ่งคือการรวมคุณสมบัติความปลอดภัยหลักเช่น การตรวจจับการล้มและ SOS ฉุกเฉิน ซึ่งเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ใช้เป็นพิเศษ 

อย่างแอปเปิ้ลวอทช์ เอสอี รุ่นนี้คุ้มค่าเกินราคาจริง ๆ เพราะนอกจากจะใช้งานได้ลื่นไหลแล้ว ยังมีฟีเจอร์ความปลอดภัยที่น่าสนใจ อย่างเช่นการตรวจจับการล้ม ถ้าเกิดพลาดล้ม นาฬิกาจะส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือให้เราทันทีเลยล่ะ

และแอปเปิ้ลวอทช์เอสอี(รุ่นปี 2024) เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ซื้อที่คำนึงถึงงบประมาณที่ต้องการสัมผัสกับฟังก์ชันหลักของแอปเปิ้ลวอทช์ โดยไม่ต้องจ่ายราคาแพง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับการติดตามการออกกำลังกาย คุณสมบัติด้านสุขภาพที่จำเป็น 

และการผสานรวมกับ iPhone ได้อย่างราบรื่น แต่ไม่จำเป็นต้องใช้ตัวชี้วัดสุขภาพขั้นสูงหรือเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยที่สุด ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ใช้สมาร์ทวอทช์ครั้งแรกหรือเพียงแค่กำลังมองหาการอัปเกรดที่ราคาไม่แพง SE ก็มอบการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างประสิทธิภาพ ความน่าเชื่อถือ และมูลค่า

ถ้าคุณกำลังมองหาสมาร์ทวอทช์เรือนแรก หรืออยากเปลี่ยนจากรุ่นเก่ามาใช้รุ่นใหม่แต่ไม่อยากเสียเงินเยอะแอปเปิ้ลวอทช์ SE รุ่นปี 2024 คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์ที่สุด เพราะได้ทั้งฟังก์ชันที่ครบครัน ราคาสบายกระเป๋า และยังใช้งานได้ง่ายอีกด้วย

apple watch รุ่นไหนดี

Apple Watch Ultra: เกินกว่านาฬิกา เป็นคู่หูผจญภัยตัวจริง

ความจริงแอปเปิ้ลวอทช์ อัลตร้าเป็นรุ่นที่แข็งแกร่งและประสิทธิภาพสูงที่สุดของ แอปเปิ้ล ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้งและนักกีฬาเอ็กซ์ตรีม Ultra สร้างขึ้นเพื่อทนต่อสภาวะที่เลวร้ายที่สุด โดยมีเคสไททาเนียมที่ผสมผสานความทนทานเข้ากับการออกแบบน้ำหนักเบา

และแอปเปิ้ลวอทช์ อัลต้าร์คือสมาร์ทวอทช์สุดแกร่งที่ออกแบบมาเพื่อคนชอบผจญภัยตัวจริง! ตัวเรือนทำจากไทเทเนียมแข็งแรงทนทาน แถมยังน้ำหนักเบาอีกด้วย เหมาะสำหรับคนที่ชอบออกไปลุยในที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นป่าเขา ทะเล หรือแม้แต่ขั้วโลกเหนือก็เอาอยู่!

คุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุดอย่างหนึ่งของ Ultra คืออายุแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้น โดยสามารถใช้งานปกติได้นานถึง 36 ชั่วโมงและ 60 ชั่วโมงด้วยการตั้งค่าพลังงานต่ำแอปเปิ้ลวอทช์ Ultra ได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานได้นานหลายวันโดยไม่ต้องชาร์จใหม่ นอกจากนี้ยังมีระบบวัดสมรรถภาพร่างกายขั้นสูงเช่น GPS แบบความถี่คู่ที่แม่นยำสำหรับการติดตามตำแหน่งที่แม่นยำในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย 

คุณสมบัติการเดินป่าและการปีนเขาเฉพาะทาง และชุดโหมดออกกำลังกายที่ตอบโจทย์นักกีฬาที่จริงจัง นอกจากนี้ Ultra ยังมีปุ่มที่ปรับแต่งได้เพิ่มเติมสำหรับการเข้าถึงคุณสมบัติต่าง ๆ อย่างรวดเร็วเช่น คอมพิวเตอร์ดำน้ำ ตัวชี้วัดสมรรถภาพร่างกาย หรือการดำเนินการฉุกเฉิน

แบตเตอรี่ของแอปเปิ้ลวอทช์อัลต้าร์ถึกทนสุด ๆ ชาร์จทีเดียวใช้ได้หลายวันเลยล่ะ! นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์เจ๋ง ๆ อย่าง GPS แม่นยำสูง, โหมดสำหรับนักปีนเขา และปุ่มพิเศษสำหรับเรียกใช้ฟังก์ชันต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้การผจญภัยของคุณสนุกและปลอดภัยมากขึ้น

จุดแข็งหลักของแอปเปิ้ลวอทช์อัลตร้า  อยู่ที่ความทนทานและประสิทธิภาพสูงสุดในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง ตัวเรือนไททาเนียมช่วยให้มั่นใจได้ถึงการปกป้องสูงสุด ในขณะที่ยังคงเบากว่าสแตนเลส และหน้าจอคริสตัลแซฟไฟร์ขนาดใหญ่ขึ้นนั้นทั้งทนทานและอ่านง่ายในทุกสภาวะ รวมถึงแสงแดดจ้า 

สำหรับความแม่นยำของ GPS ที่ได้รับการปรับปรุง ความทนทานต่อน้ำได้ลึกถึง 100 เมตร และอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน ทำให้เป็นเพื่อนร่วมทางที่ยอดเยี่ยมสำหรับการผจญภัยกลางแจ้ง ไม่ว่าคุณจะเดินป่า ปีนเขา หรือดำน้ำ 

ใครที่เคยเห็นแอปเปิ้ลวอทช์ Ultra จะทราบว่ามันแข็งแรงทนทานสุด ๆ หน้าจอใสแจ๋ว แม้จะอยู่กลางแดดก็ยังมองเห็นชัดเจน แถมยังกันน้ำได้ลึกมาก เหมาะสำหรับคนที่ชอบดำน้ำตื้นอีกด้วย ไม่ว่าจะไปไหนมาไหนแอปเปิ้ลวอทช์ อันตร้าก็พร้อมจะไปกับคุณทุกที่

อย่างไรก็ตาม Ultra ก็มีข้อเสียเช่นกัน ขนาดใหญ่ขึ้นพร้อมตัวเรือนขนาด 49 มม. อาจดูเทอะทะบนข้อมือที่เล็กกว่า และไม่ดูทันสมัยหรือเรียบง่ายเท่ารุ่นอื่น ๆ เช่นซีรีส์ 9 นอกจากนี้ คุณสมบัติระดับพรีเมียมและโครงสร้างที่ทนทานยังมาพร้อมกับราคาพรีเมียม ซึ่งอาจไม่ดึงดูดผู้ใช้ทั่วไปหรือผู้ที่ไม่ต้องการความทนทานเป็นพิเศษ 

สำหรับผู้ที่ไม่ได้เล่นกีฬาผาดโผนหรือกิจกรรมกลางแจ้ง ราคาอาจสูงกว่าประโยชน์ที่ได้รับแม้ว่าแอปเปิ้ลวอทช์อัลตร้า จะเจ๋ง แต่ก็มีข้อเสียอยู่บ้าง คือตัวเรือนอาจจะใหญ่ไปสำหรับบางคน และราคาค่อนข้างสูง อาจจะไม่เหมาะสำหรับคนที่แค่อยากได้นาฬิกาธรรมดา ๆ สักเรือน แต่ถ้าคุณเป็นสายลุยที่ต้องการนาฬิกาที่ทนทานและมีฟังก์ชันครบครัน สมาร์ทวอทช์ไอโฟน รุ่นอัลตร้าคือคำตอบที่ดีที่สุดเลยล่ะ

apple watch รุ่นไหนดี ? มีคู่มือฉบับสมบูรณ์ห้ามพลาด

เมื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพระหว่างแอปเปิ้ลวอทช์ซีรีส์ 9, SE (รุ่นปี 2024) และ Ultra แล้ว Series 9 จะโดดเด่นด้วยชิป S9 SiP (System in Package) ซึ่งให้ความเร็วในการประมวลผลที่เร็วขึ้นและประสิทธิภาพแอปที่ราบรื่นยิ่งขึ้น รุ่นนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการเวลาตอบสนองที่รวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสลับไปมาระหว่างแอป เข้าถึงการแจ้งเตือน และติดตามการออกกำลังกายแบบเรียลไทม์

แอปเปิ้ลวอทช์ซีรีส์ 9 เร็วแรงที่สุด! ด้วยชิปตัวใหม่ ทำให้ทุกอย่างลื่นไหลราวกับปีกนก เหมาะสำหรับคนที่ชอบเล่นแอปหลาย ๆ ตัวพร้อมกัน หรืออยากเช็คแจ้งเตือนแบบทันทีทันใด

SE (รุ่นปี 2024) แม้จะติดตั้งโปรเซสเซอร์ S8 รุ่นเก่า แต่ยังคงให้ประสิทธิภาพที่เชื่อถือได้สำหรับงานประจำวัน เช่นการส่งข้อความ การแจ้งเตือน และการติดตามการออกกำลังกาย แม้ว่าจะไม่ลื่นไหลเท่ากับ Series 9 ก็ตามอย่างรุ่น Ultra ที่มีโปรเซสเซอร์ S8 อันแข็งแกร่งได้รับการปรับให้เหมาะสมสำหรับความทนทาน และประสิทธิภาพในสภาวะที่รุนแรง 

โดยจัดการการติดตาม GPS ที่เข้มข้นและแอปพลิเคชันกลางแจ้งโดยไม่ช้าลง แม้จะมีโปรเซสเซอร์เดียวกันกับ SE แต่ประสิทธิภาพของ Ultra ได้รับการปรับให้เหมาะสมสำหรับการผจญภัย โดยมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้นและการปรับปรุงความทนทานเพื่อรองรับการใช้งานที่เข้มข้นมากขึ้น

สำหรับแอปเปิ้ลวอทช์ SE ก็ใช้ได้ดีเลยล่ะ เหมาะสำหรับใช้งานทั่วไป เช่นตอบข้อความ หรือติดตามการออกกำลังกายเบา ๆ ส่วนแอปเปิ้ลวอทช์ อับตร้า นี่แข็งแกร่งสุด ๆ ออกแบบมาสำหรับคนที่ชอบผจญภัย แบตเตอรี่อึด ถึกทน เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งสุด ๆ ไปเลย

ในแง่ของอายุการใช้งานแบตเตอรี่ของอัลตร้า ให้การใช้งานที่ยาวนานที่สุด โดยใช้งานปกติได้นานถึง 36 ชั่วโมง และใช้งานในโหมดพลังงานต่ำได้นานถึง 60 ชั่วโมง ซึ่งออกแบบมาสำหรับการเดินทางหลายวันซีรีส์ 9 ยังคงอายุการใช้งานแบตเตอรี่ตามปกติที่ 18 ชั่วโมง แต่มีประสิทธิภาพด้านพลังงานที่ดีขึ้น 

ทำให้คุณสามารถใช้งานตลอดทั้งวันโดยไม่มีปัญหาใด ๆ SE มีการใช้งานแบตเตอรี่ที่ใกล้เคียงกับ Series 9 แม้ว่าจะไม่มีจอแสดงผลที่เปิดตลอดเวลา ซึ่งช่วยประหยัดพลังงานได้ในบางสถานการณ์

ถ้าอยากได้นาฬิกาที่แบตอึด ทนทานแอปเปิ้ลวอทช์อันตร้าคือตัวเลือกที่ดีที่สุด ใช้ได้นานหลายวันเลยล่ะ ส่วน Series 9 ก็ใช้ได้ทั้งวันสบาย ๆ ส่วน SE ก็ใช้ได้นานพอสมควร

แอปเปิ้ลวอทช์ซีรีส์ 9 โดดเด่นด้วยคุณสมบัติด้านสุขภาพขั้นสูง เช่นการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ การติดตามออกซิเจนในเลือด และอัลกอริธึมการติดตามการนอนหลับที่ได้รับการปรับปรุง สำหรับผู้ใช้ที่ใส่ใจในสุขภาพ คุณสมบัติเหล่านี้ให้ข้อมูลเชิงลึกที่แม่นยำเกี่ยวกับสุขภาพหัวใจ และระดับความอิ่มตัวของออกซิเจน 

ทำให้เป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมสำหรับการติดตามสุขภาพเชิงรุก Ultra ยังมีคุณสมบัติขั้นสูงเหล่านี้ แต่ให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับตัวชี้วัดฟิตเนสเช่น GPS ความถี่คู่ โซนอัตราการเต้นของหัวใจ และโหมดเฉพาะทางอื่น ๆ สำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง เช่นการเดินป่าและการดำน้ำ ความสามารถในการติดตามความฟิตและสุขภาพได้รับการออกแบบมาสำหรับนักกีฬาที่จริงจังและผู้ที่เล่นกีฬาผาดโผน 

อย่างแอปเปิ้ลวอทช์ ซีรีส์ 9 มีฟังก์ชันดูแลสุขภาพครบครัน ทั้งวัดใจ, เช็คออกซิเจนในเลือด เหมาะสำหรับคนที่ใส่ใจสุขภาพ ส่วนแอปเปิ้ลวอทช์ Ultra นอกจากจะดูแลสุขภาพแล้ว ยังเน้นเรื่องการออกกำลังกายหนัก ๆ อย่างเช่น วิ่งเทรล ปีนเขา หรือดำน้ำอีกด้วย

แอปเปิ้ลวอทช์รุ่นไหนคุ้มค่าที่สุด? เปรียบเทียบราคาและฟังก์ชัน

ในประเทศไทย กลุ่มผลิตภัณฑ์นาฬิกา apple watch มีราคาให้เลือกหลากหลายเพื่อให้เหมาะกับงบประมาณและความต้องการที่แตกต่างกัน โดยในปี 2024 ซึ่งแอปเปิ้ลวอทช์ซีรีส์  9 ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 15,900 บาทสำหรับรุ่นพื้นฐานแบบอะลูมิเนียม ส่วนรุ่นที่มีผิวสัมผัสพรีเมียม เช่นสแตนเลสสตีล มีราคาสูงขึ้น 

สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการฟีเจอร์ล่าสุดทั้งหมดและการออกแบบที่ประณีตที่สุด ราคาอาจดูสูง แต่การผสานรวมเข้ากับ iPhone โปรเซสเซอร์ S9 ที่ทรงพลัง และฟีเจอร์การติดตามสุขภาพขั้นสูง เช่นการวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจและออกซิเจนในเลือด ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเทคโนโลยีและผู้ที่จริงจังกับสุขภาพและการออกกำลังกาย

แอปเปิ้ลวอทช์มีหลายรุ่นให้เลือก ราคาก็แตกต่างกันไปนะ Series 9 รุ่นใหม่ล่าสุด ราคาเริ่มต้นประมาณ 15,900 บาท แม้จะราคาสูงหน่อย แต่ก็มาพร้อมฟังก์ชันเจ๋ง ๆ อย่างวัดคลื่นหัวใจ วัดออกซิเจนในเลือด เหมาะสำหรับคนที่รักสุขภาพและเทคโนโลยีสุด ๆ

ในทางกลับกันแอปเปิ้ลวอทช์ SE (รุ่นปี 2024) เป็นตัวเลือกที่เป็นมิตรกับงบประมาณมากที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ โดยมีราคาเริ่มต้นประมาณ 9,900 บาท แม้ว่าจะขาดฟังก์ชันด้านสุขภาพขั้นสูงบางอย่างแต่ SE ก็ให้มูลค่าที่คุ้มค่ามากด้วยฟังก์ชันหลักของแอปเปิ้ลวอทช์ เช่นการตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจ การตรวจจับการล้ม และการผสานรวมกับ iPhone ได้อย่างราบรื่น 

ถือว่าเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่กำลังมองหาสมาร์ทวอทช์ที่เชื่อถือได้โดยไม่ต้องมีคุณสมบัติระดับไฮเอนด์ที่ทำให้ราคาสูงขึ้น

ถ้าอยากได้แอปเปิ้ลวอทช์ ในราคาเบา ๆ น่าจะโฟกัสที่แอปเปิ้ลวอทช์  เอสอี ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีเลยนะ ราคาประมาณ 9,900 บาท ฟังก์ชันครบครัน เหมาะสำหรับใช้งานทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นตรวจวัดการเต้นของหัวใจ หรือแจ้งเตือนต่าง ๆ

สำหรับผู้ที่มีงบประมาณสูงและความต้องการที่มากขึ้นแอปเปิ้ลวอทช์ Ultra มีราคาอยู่ที่ประมาณ 30,900 บาท รุ่นนี้ได้รับการออกแบบมาสำหรับนักผจญภัยและนักกีฬาที่ต้องการนาฬิกาที่ทนทานและประสิทธิภาพสูงที่สามารถทนต่อสภาวะที่รุนแรง 

ด้วยคุณสมบัติเช่นเคสไททาเนียม GPS แบบความถี่คู่ และกันน้ำได้ลึกถึง 100 เมตร ราคาพรีเมียมของ Ultra จึงสมเหตุสมผลสำหรับผู้ใช้ที่พึ่งพาคุณสมบัติเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ใช้ทั่วไป Ultra อาจเกินความจำเป็นหากไม่ต้องการฟังก์ชันเฉพาะของมัน

แอปเปิ้ลวอทช์ Ultra นี่แหละตัวท็อป! 

ราคาสูงหน่อย แต่แข็งแรงทนทาน เหมาะสำหรับคนที่ชอบผจญภัย หรือทำกิจกรรมกลางแจ้งสุด ๆ ฟังก์ชันเยอะ แบตอึด ทนน้ำได้ลึก ถ้าอยากได้นาฬิกาที่พร้อมลุยทุกที่แอปเปิ้ลวอทช์ อัลตร้าคือคำตอบ

ในประเทศไทย คุณสามารถซื้อแอปเปิ้ลวอทช์ ได้จากผู้ค้าปลีกที่เชื่อถือได้หลายราย ทั้งในร้านและออนไลน์ ร้านค้าอย่างเป็นทางการของ แอปเปิ้ลทั้งแบบหน้าร้านจริงและ Apple Online Store นำเสนอแอปเปิ้ลวอทช์ รุ่นต่าง ๆ มากมาย ช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้รับสมาร์ทวอทช์ ไอโฟนของแท้ พร้อมการสนับสนุนลูกค้าที่เชื่อถือได้และการรับประกัน 

นอกจากนี้ ตัวแทนจำหน่าย Apple Premium เช่น iStudio และ iCenter ยังมีสินค้ารุ่นล่าสุดและมักมีโปรโมชั่นหรือข้อเสนอพิเศษเป็นชุด โดยเฉพาะช่วงระยะเวลาช้อปปิ้งที่สำคัญ

อยากซื้อแอปเปิ้ลวอทช์ ก็ง่ายนิดเดียว มีให้เลือกซื้อได้หลายที่เลย ทั้งร้าน Apple Store, iStudio, iCenter หรือจะสั่งซื้อออนไลน์ผ่าน Lazada, Shopee ก็ได้นะ แนะนำให้ซื้อจากร้านที่เชื่อถือได้ เพื่อความมั่นใจว่าได้ของแท้และมีประกัน

สมาร์ทวอทช์ไอโฟน รุ่นไหนดี? เลือกยังไงไม่ให้พลาด

การเลือกแอปเปิ้ลวอทช์ รุ่นที่เหมาะสมนั้นขึ้นอยู่กับความเข้าใจในความต้องการส่วนบุคคลและไลฟ์สไตล์ของคุณ หากคุณเป็นผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายหรือเป็นคนที่ใส่ใจในการติดตามสุขภาพของคุณอย่างจริงจังแอปเปิ้ลวอทช์ ซีรีส์ 9 ถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด 

สมาร์ทวอทช์ ไอโฟน ล่าสุดรุ่นนี้มีคุณสมบัติขั้นสูงเช่น ECG การตรวจสอบออกซิเจนในเลือด และโหมดติดตามการออกกำลังกายรุ่นถัดไป ทำให้เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลสุขภาพที่แม่นยำและการวิเคราะห์การออกกำลังกายที่ครอบคลุม จอภาพ Retina ที่เปิดตลอดเวลาช่วยให้มองเห็นสถิติของคุณได้ตลอดเวลา ซึ่งมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับนักกีฬาระหว่างการออกกำลังกาย

เลือกนาฬิกา apple watchให้ถูกใจ ต้องดูไลฟ์สไตล์ตัวเองก่อนนะ ถ้าชอบออกกำลังกาย ชอบดูแลสุขภาพแอปเปิ้ลวอทช์ ซีรีส์ 9 คือตัวเลือกที่ดีเลย เพราะวัดได้ทุกอย่าง ทั้งใจ, ออกซิเจนในเลือด แถมยังมีโหมดออกกำลังกายให้เลือกเพียบ เหมาะกับคนที่อยากรู้ข้อมูลสุขภาพตัวเองแบบละเอียด

สำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่ให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายและฟังก์ชันพื้นฐานของสมาร์ทวอทช์เช่น การแจ้งเตือน การส่งข้อความ และการติดตามกิจกรรมทั่วไปแอปเปิ้ลวอทช์ SE (รุ่นปี 2024) 

มอบสิ่งที่มากกว่าเพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการของคุณในราคาที่ถูกกว่ามาก นาฬิการุ่นนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์ สมาร์ทวอทช์ไอโฟน พื้นฐานโดยไม่ต้องมีฟีเจอร์พิเศษของรุ่นพรีเมียม

ถ้าอยากได้แอปเปิ้ลวอทช์ ที่ใช้งานง่าย ฟังก์ชันครบครัน แต่ไม่อยากจ่ายแพงมากแอปเปิ้ลวอทช์ SE ก็ตอบโจทย์ได้นะ ราคาไม่แรงมาก แต่ก็ทำได้หลายอย่าง ทั้งตอบข้อความ ตรวจวัดการเต้นของหัวใจ เหมาะสำหรับคนที่ใช้ชีวิตประจำวันทั่วไป

หากคุณเป็นนักผจญภัยกลางแจ้งหรือผู้ที่ชื่นชอบกีฬาเอ็กซ์ตรีมแอปเปิ้ลวอทช์ อัลตร้าออกแบบมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ ด้วยเคสไททาเนียม GPS แบบความถี่คู่ และความทนทานที่ทนทาน ทำให้รุ่นนี้สร้างขึ้นมาเพื่อทนต่อสภาพแวดล้อมที่ยากลำบาก ไม่ว่าคุณจะเดินป่า ดำน้ำ หรือปีนเขา 

คุณสมบัติพิเศษของ Ultra เช่น ความทนทานต่อน้ำ 100 เมตรและอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่เพิ่มขึ้น ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความน่าเชื่อถือในสภาวะที่รุนแรง

สำหรับสายลุย สายผจญภัยแอปเปิ้ลวอทช์ อัลตร้าคือตัวเลือกที่ใช่เลย! แข็งแรง ทนทาน แถมยังกันน้ำได้ลึกมาก เหมาะสำหรับคนที่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้งสุด ๆ ไม่ว่าจะปีนเขา ดำน้ำ หรือเดินป่า

การเลือกแอปเปิ้ลวอทช์ ควรพิจารณางบประมาณของคุณให้สมดุลกับคุณสมบัติที่คุณต้องการจริง ๆ Series 9 นำเสนอคุณสมบัติล่าสุดและการติดตามสุขภาพและประสิทธิภาพที่ล้ำหน้าที่สุด แต่มาพร้อมกับราคาที่สูงมาก หากคุณซื้อได้และต้องการประสบการณ์ที่ดีที่สุดของ apple watch series 9 ราคาล่าสุด ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับการใช้งานระยะยาว

งั้นสรุปง่าย ๆ เลยนะ ถ้ามีงบเยอะ อยากได้ฟังก์ชันแบบครบต้องเลือก Series 9 เลย แต่ถ้างบน้อยหน่อย แต่ก็อยากได้แอปเปิ้ลวอทช์ เอสอีก็เป็นตัวเลือกที่ดีนะ ส่วนแอปเปิ้ลวอทช์ อัลตร้าเหมาะสำหรับคนที่ชอบผจญภัยสุด ๆ ลองพิจารณาความต้องการของตัวเองดูก่อนนะว่าอยากได้อะไรบ้าง แล้วค่อยเลือกให้ตรงใจ

เคล็ดลับเด็ด! เลือกซื้อ สมาร์ทวอทช์ไอโฟน ยังไงให้คุ้ม

 ตอนนี้คุณเข้าใจรุ่นที่ดีที่สุดของแอปเปิ้ลวอทช์ เป็นอย่างดีแล้ว ถึงเวลาเลือกรุ่นที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณ ไม่ว่าคุณกำลังมองหาเทคโนโลยีเรือธงล่าสุด ตัวเลือกที่ราคาไม่แพงแต่เต็มไปด้วยคุณสมบัติ หรือคู่หูที่ทนทานสำหรับการผจญภัยกลางแจ้งแอปเปิ้ลวอทช์ที่ใช่กำลังรอคุณอยู่ 

เยี่ยมชมร้านค้าปลีกในพื้นที่ของคุณหรือซื้อออนไลน์ที่แพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้ในประเทศไทยเช่น ร้านค้าอย่างเป็นทางการของ Apple, iStudio หรือ Lazada เพื่อรับสมาร์ทวอทช์ในอุดมคติของคุณวันนี้ ด้วยตัวเลือกที่ตอบโจทย์งบประมาณและความต้องการที่แตกต่างกัน ไม่เคยมีช่วงเวลาใดดีไปกว่านี้ในการลงทุนในแอปเปิ้ลวอทช์ ที่จะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของคุณในแต่ละวัน

งั้นเลือกแอปเปิ้ลวอทช์ รุ่นไหนดีล่ะ? 

ง่ายมาก! ถ้ารู้แล้วว่าตัวเองชอบแบบไหน ก็ไปตำได้เลย จะชอบรุ่นสุดไฮเทค หรือรุ่นราคาเบา ๆ ก็มีให้เลือกเพียบ ไม่ว่าจะไปซื้อที่ร้าน Apple Store, iStudio หรือสั่งออนไลน์ก็สะดวกทั้งนั้น ลองไปดูกันนะว่ารุ่นไหนถูกใจที่สุด

ด้วยตัวเลือกที่ตอบโจทย์งบประมาณและความต้องการที่แตกต่างกัน ไม่เคยมีช่วงเวลาใดดีไปกว่านี้ในการลงทุนในแอปเปิ้ลวอทช์ ที่จะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของคุณในแต่ละวัน

ตอนนี้แอปเปิ้ลวอทช์ มีให้เลือกเยอะมาก แถมแต่ละรุ่นก็ตอบโจทย์คนกลุ่มต่างกันไปด้วย ไม่ว่าจะชอบออกกำลังกาย ชอบเทคโนโลยี หรือชอบกิจกรรมกลางแจ้ง ก็มีรุ่นที่เหมาะกับคุณแน่นอน

  • แอปเปิ้ลวอทช์ Series 9: เหมาะสำหรับคนที่ชอบเทคโนโลยีล้ำสมัย และอยากได้ฟีเจอร์ครบ ๆ
  • แอปเปิ้ลวอทช์  เอสอี: เหมาะสำหรับคนที่อยากได้แอปเปิ้ลวอทช์ ในราคาที่จับต้องได้ และฟังก์ชันครอบคลุมการใช้งานทั่วไป
  • แอปเปิ้ลวอทช์ อัลตร้า: เหมาะสำหรับสายลุย นักกีฬา หรือคนที่ชอบกิจกรรมกลางแจ้ง

ไม่ต้องคิดมากแล้วล่ะ! เลือก สมาร์ทวอทช์ไอโฟน ที่ใช่สำหรับคุณ แล้วไปสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ กับสมาร์ทวอทช์ ไอโฟนล่าสุด ที่   สมาร์ทวอทช์ไอโฟน จะมอบให้กันเลย

Categories
รีวิว

แอพจดบันทึก samsung สมุดโน้ตอัจฉริยะที่รวมฟีเจอร์ครบครัน

แอพจดบันทึก samsung จดบันทึกอย่างไรให้ล้ำสมัย?

สวัสดีครับ วันนี้แอดจะพาทุกคนมาสัมผัสกับการรีวิว แอพจดบันทึก samsung สมุดบันทึก ใน samsung แอปจดบันทึกสุดล้ำอย่าง Samsung Notes ที่จะเปลี่ยนการจดบันทึกของคุณให้ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป! และยังสามารถบันทึก หลวงตาจันทร์ 16/4/67 ได้ด้วยนะ และเจ้า Samsung Notes ไม่ได้เป็นแค่แอปจดโน้ตธรรมดาแอพจดโน๊ต samsung ฟรี แต่เปรียบเสมือน สมุดบันทึก ใน samsung สมุดโน้ตอัจฉริยะที่รวมฟีเจอร์ครบครัน ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น

  • จดโน้ตได้หลากหลายรูปแบบ: เขียน วาด พิมพ์ รูปภาพ เสียง บันทึกวิดีโอ
  • เครื่องมือครบครัน: ปากกา ปากกาเน้นข้อความ ยางลบ ไม้บรรทัด ฯลฯ
  • เทมเพลตสวยงาม: เลือกเทมเพลตที่เหมาะกับการใช้งาน
  • แท็กและหมวดหมู่: จัดระเบียบโน้ตให้ค้นหาง่าย
  • ซิงค์ข้อมูลอัตโนมัติ: เข้าถึงโน้ตของคุณได้ทุกที่ทุกเวลา
  • ฟีเจอร์ล้ำสมัย: แปลงลายมือเป็นตัวอักษร บันทึกหน้าจอ วาดภาพบน PDF

แอพจดโน๊ต samsung ฟรี

จุดเด่นที่ทำให้แอพจดโน๊ต samsung ฟรี Samsung Notes โดดเด่นกว่าแอปอื่น

  • ใช้งานง่าย: อินเทอร์เฟซเรียบง่าย ใช้งานสะดวก
  • ฟีเจอร์ครบครัน: ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน
  • รองรับ S Pen: เขียนลื่นไหล วาดได้อย่างอิสระ
  • เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น: ทำงานต่อเนื่องบน Galaxy Tab, PC หรือ Windows

Samsung Notes เหมาะกับใคร?

  • นักเรียน นักศึกษา จดบันทึกในชั้นเรียน วาดรูป เขียนโน้ต
  • พนักงานออฟฟิศ จดบันทึกประชุม วาดแผนงาน เขียนรายการสิ่งที่ต้องทำ
  • ศิลปิน วาดภาพ ออกแบบ ร่างไอเดีย
  • บุคคลทั่วไป จดบันทึกส่วนตัว วาดรูป ระบายสี

สรุปแอพจดบันทึก samsung

Samsung Notes เป็นแอพจดบันทึก samsung แอปจดบันทึกที่ครบครัน ใช้งานง่าย ฟีเจอร์ล้ำสมัย เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ ดาวน์โหลดได้ฟรี! ดาวน์โหลดแอพจดบันทึก samsung Samsung Notes เลยวันนี้ ลองใช้ Samsung Notes แล้วมาแชร์ประสบการณ์กันนะครับ!

 

Categories
รีวิว

แอพจดบันทึก android 5 แอป ที่ควรโหลดติดไว้

5 แอพจดบันทึก Android ที่น่าใช้

สวัสดีชาว Android ทุกคน กลับมาพบกับแอดนักรีวิว แอปพลิเคชันตัวยงเช่นเคย วันนี้เรามีบทความรีวิว แอพจดบันทึก Android มาฝากกันคะ แอพจดบันทึกเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน นักศึกษา นักธุรกิจ หรือแม้แต่คนที่ชอบจดบันทึกความคิดสร้างสรรค์ แอพจดบันทึกที่ดีจะช่วยเราจดบันทึก โดยเฉพาะคนที่ชอบจด หวยไทยรัฐ 16/4/67 ให้มีประสิทธิภาพและสะดวกรวดเร็ว

ในบทความนี้ เราจะมารีวิว แอพจดบันทึก android ฟรี  5 แอป ที่น่าใช้และได้รับความนิยมมากที่สุด แอพจดโน๊ต ฟรี แต่ละแอปมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป รับรองว่าถูกใจทุกคนอย่างแน่นอน

Kilonotes

แอพจดบันทึก android ฟรี

จุดเด่นของ Kilonotes แอพสมุดบันทึกฟรี

  • อินเทอร์เฟซน่ารัก ใช้งานง่าย: แอปมีดีไซน์น่ารัก สบายตา ใช้งานง่าย เหมาะกับผู้ใช้ทุกเพศทุกวัย
  • ฟีเจอร์ครบครัน: จดโน้ตได้หลากหลายรูปแบบ วาดรูป เขียนไดอารี่ ทำตารางเวลา แปลงลายมือเป็นข้อความ ฯลฯ
  • เครื่องมืออำนวยความสะดวก: มีปากกาให้เลือกหลายแบบ ปรับขนาดและสีได้ มีเทมเพลตและสติ๊กเกอร์น่ารักๆ ให้ใช้ฟรี
  • โหมดโฟกัส: ช่วยให้จดจ่อกับการจดโน้ตโดยไม่ถูกรบกวน
  • ซิงค์ข้อมูลอัตโนมัติ: จดโน้ตบนอุปกรณ์ไหนก็ได้ ข้อมูลจะซิงค์กันอัตโนมัติ
  • รองรับ Apple Pencil: วาดรูปและจดโน้ตได้ลื่นไหลเหมือนเขียนบนกระดาษจริง

ตัวอย่างการใช้งาน Kilonotes

  • จดโน้ต: จดเลคเชอร์ วาดรูป เขียนไดอารี่ จดรายการสิ่งที่ต้องทำ ฯลฯ
  • ทำสรุป: เขียนสรุปเนื้อหาสำคัญจากหนังสือ เอกสาร หรือเว็บไซต์
  • วาดรูป: วาดรูประบายสี วาดแผนที่ วาดภาพประกอบ ฯลฯ
  • เขียนไดอารี่: บันทึกเรื่องราวประจำวัน ความคิด ความรู้สึก ฯลฯ
  • ทำตารางเวลา: จัดตารางเรียน ตารางงาน ตารางกิจกรรมต่างๆ ฯลฯ

สรุป

Kilonotes เป็นแอปจดโน้ตที่เหมาะกับผู้ใช้ทุกเพศทุกวัย ใช้งานง่าย ฟีเจอร์ครบครัน เครื่องมืออำนวยความสะดวกครบครัน เหมาะกับการจดโน้ต วาดรูป เขียนไดอารี่ ทำตารางเวลา และอื่นๆ อีกมากมาย แอดขอแนะนำแอปนี้ให้กับทุกคนที่กำลังมองหาแอปจดโน้ตที่ใช้งานง่าย ฟีเจอร์ครบครัน และดีไซน์น่ารัก

คะแนน: 9/10

Touchnotes

Touchnotes แอพจดบันทึก android ฟรี เปรียบเสมือนสมุดโน้ตดิจิทัลที่เต็มไปด้วยฟีเจอร์ครบครัน ให้คุณจดบันทึก วาดรูป เขียนข้อความ หรือแม้แต่แปลงลายมือเป็นตัวอักษรได้อย่างง่ายดาย ใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา บนทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต

จุดเด่นที่ทำให้ Touchnotes โดดเด่นกว่าแอปจดโน้ตทั่วไป

  • อินเตอร์เฟซเรียบง่าย ใช้งานง่าย: ดีไซน์ UI ที่ใช้งานง่าย เข้าใจง่าย เหมาะกับผู้ใช้ทุกวัย
  • เครื่องมือครบครัน: มีเครื่องมือให้เลือกใช้หลากหลายทั้งปากกา ดินสอ ยางลบ ไฮไลท์ ฯลฯ
  • ฟีเจอร์ล้ำสมัย: แปลงลายมือเป็นตัวอักษร, แทรกภาพถ่าย, วาดรูปทรงเรขาคณิต, ลากเส้นตรงและเส้นโค้ง
  • รองรับไฟล์ PDF: สามารถจดโน้ตบนไฟล์ PDF, วาดรูป, ไฮไลท์ข้อความ
  • จัดระเบียบโน้ตอย่างชาญฉลาด: สร้างสมุดโน้ต, แยกหมวดหมู่, จัดเรียงโน้ตตามลำดับ
  • แชร์โน้ตได้ง่ายดาย: แชร์โน้ตผ่านโซเชียลมีเดีย, อีเมล, หรือ AirDrop

Touchnotes เหมาะกับใคร?

  • นักเรียน นักศึกษา ที่ต้องการจดเลคเชอร์ วาดรูป หรือจดบันทึกย่อ
  • พนักงานออฟฟิศ ที่ต้องการจดบันทึกประชุม วาดแผนภูมิ หรือทำ mind map
  • ศิลปิน นักออกแบบ ที่ต้องการวาดรูป ร่างภาพ หรือสเก็ตช์ไอเดีย
  • บุคคลทั่วไป ที่ต้องการจดบันทึกส่วนตัว วาดรูปเล่น หรือเขียนข้อความ

Touchnotes มีให้ใช้งานทั้งแบบฟรีและแบบเสียเงิน

  • แบบฟรี: ใช้งานฟีเจอร์พื้นฐานได้ครบถ้วน
  • แบบเสียเงิน: ปลดล็อกฟีเจอร์พิเศษเพิ่มเติม เช่น – เทมเพลตโน้ตหลากหลายรูปแบบ – เครื่องมือวาดรูปขั้นสูง – พื้นที่เก็บข้อมูลบน Cloud มากขึ้น

สรุป

Touchnotes เป็นแอปพลิเคชั่นจดโน้ตที่ครบครัน ใช้งานง่าย เหมาะกับผู้ใช้ทุกวัย

แอดขอแนะนำแอปนี้ให้กับทุกคนที่ต้องการ

  • จดโน้ตอย่างมีประสิทธิภาพ
  • วาดรูปอย่างอิสระ
  • จัดระเบียบโน้ตอย่างชาญฉลาด
  • แชร์โน้ตได้ง่ายดาย

Squid แอปจดโน้ตสุดล้ำที่พร้อมปลดปล่อยพลังความคิดสร้างสรรค์ของคุณ

แอพสมุดบันทึกฟรี

Squid เปรียบเสมือนสมุดโน้ตดิจิทัลที่ใช้งานง่าย อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์ครบครัน ให้คุณจดบันทึก วาดภาพ เขียนโน้ต หรือแปลงลายมือเป็นข้อความได้อย่างสะดวกสบาย บนหน้าจอสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตของคุณ

ฟีเจอร์เด็ดที่ทำให้ Squid ไม่เหมือนใคร แอพสมุดบันทึกฟรี

  • เขียนลื่นไหล ดั่งสายน้ำ: Squid รองรับปากกา S Pen บน Samsung Galaxy devices ให้คุณสัมผัสประสบการณ์ แอพจดโน๊ต samsung การเขียนที่ลื่นไหล คล่องแคล่ว ตอบสนองฉับไว ราวกับเขียนบนกระดาษจริง
  • เครื่องมือครบครัน: Squid มาพร้อมเครื่องมือหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นปากกา ดินสอ ยางลบ ไฮไลท์ ปากกาไฮไลท์ รูปทรงต่างๆ text box lasso tool และอื่นๆ อีกมากมาย ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน
  • แปลงลายมือเป็นข้อความ: ฟีเจอร์สุดล้ำที่ช่วยแปลงลายมือของคุณให้เป็นข้อความพิมพ์ได้อย่างแม่นยำ ช่วยให้ประหยัดเวลา ค้นหาข้อมูลง่าย และแชร์โน้ตได้สะดวก
  • ซูมได้ดั่งใจ: ซูมเข้า-ออกได้อย่างอิสระ ให้คุณจดรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ได้อย่างชัดเจน โดยไม่ต้องกังวลว่าลายมือจะเล็กเกินไป
  • จัดระเบียบโน้ต: จัดการโน้ตของคุณได้อย่างมีระเบียบ ด้วยระบบโฟลเดอร์และแท็ก ค้นหาโน้ตเก่าได้ง่ายดาย
  • รองรับไฟล์ PDF: สามารถนำไฟล์ PDF มาเขียนข้อความ วาดภาพ หรือไฮไลท์เพิ่มเติมได้
  • แชร์โน้ตได้หลากหลาย: แชร์โน้ตของคุณผ่านอีเมล, social media หรือแอปพลิเคชั่นอื่นๆ ได้อย่างสะดวก
  • ใช้งานออฟไลน์: จดโน้ตได้ทุกที่ทุกเวลา โดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

Squid เหมาะกับใคร?

  • นักเรียน นักศึกษา ที่ต้องการจดเลคเชอร์ วาดรูป หรือสรุปเนื้อหาบทเรียน
  • พนักงานออฟฟิศ ที่ต้องการจดบันทึกประชุม เขียนโน้ตไอเดีย หรือวาดแผนผัง
  • ศิลปิน นักออกแบบ ที่ต้องการวาดภาพ ร่างไอเดีย หรือสเก็ตช์งาน
  • บุคคลทั่วไป ที่ต้องการจดบันทึก รายการสิ่งที่ต้องทำ หรือวาดภาพเล่น

สรุป

Squid เป็นแอปจดโน้ต แอพเขียนในโทรศัพท์ ที่ใช้งานง่าย ฟีเจอร์ครบครัน ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน เหมาะกับผู้ใช้ทุกเพศทุกวัย  ดาวน์โหลดได้ฟรี!  บอกเลยว่าห้ามพลาด!

คะแนน: 9/10

Flexcil

Flexcil คือ แอปพลิเคชั่นจดโน้ตบนมือถือและแท็บเล็ตที่รองรับทั้งระบบ iOS และ Android โดยแอปนี้มีจุดเด่นคือสามารถใช้งานร่วมกับไฟล์ PDF ได้อย่างลงตัว เหมาะสำหรับการจดโน้ตระหว่างอ่านเอกสาร ทำสรุปงาน หรือแม้แต่เขียนบันทึกส่วนตัว

ฟีเจอร์เด่นของ Flexcil

  • จดโน้ตบนไฟล์ PDF: เขียน วาด ปรับแต่งข้อความในไฟล์ PDF ได้อย่างอิสระ โดยไม่ต้องแปลงไฟล์
  • เครื่องมือหลากหลาย: มีทั้งปากกา ดินสอ ยางลบ ไฮไลท์ และเครื่องมืออื่นๆ ให้เลือกใช้งาน
  • เทมเพลตโน้ต: มีเทมเพลตให้เลือกใช้งานหลากหลาย เหมาะกับการจดโน้ตในรูปแบบต่างๆ
  • แยกเลเยอร์: แยกเลเยอร์การจดโน้ต ช่วยให้จัดระเบียบเนื้อหาได้อย่างเป็นระเบียบ
  • ค้นหาโน้ต: ค้นหาข้อความในโน้ตและไฟล์ PDF ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
  • ซิงค์ข้อมูล: ซิงค์ข้อมูลโน้ต across devices ผ่านระบบ Cloud

ประสบการณ์การใช้งาน Flexcil

แอดได้ลองใช้งาน Flexcil พบว่าแอปทำงานลื่นไหล ตอบสนองรวดเร็ว การเขียนโน้ตบนไฟล์ PDF ทำได้สะดวก เครื่องมือต่างๆ ใช้งานง่าย เทมเพลตโน้ตมีให้เลือกหลากหลาย ฟีเจอร์แยกเลเยอร์ช่วยให้จัดระเบียบเนื้อหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฟีเจอร์ค้นหาโน้ตทำงานได้รวดเร็ว

ข้อดีของ Flexcil

  • ใช้งานง่าย เหมาะกับผู้ใช้ทุกระดับ
  • ฟีเจอร์ครบครัน ตอบโจทย์การจดโน้ตในหลากหลายรูปแบบ
  • รองรับไฟล์ PDF
  • ใช้งานได้ทั้งบนมือถือและแท็บเล็ต
  • ซิงค์ข้อมูล across devices

ข้อเสียของ Flexcil

  • ฟีเจอร์บางฟีเจอร์จำกัดการใช้งานในเวอร์ชั่นฟรี
  • ยังไม่มีฟีเจอร์ OCR สำหรับแปลงข้อความในรูปภาพเป็นตัวอักษร

สรุป

Flexcil เป็นแอปจดโน้ตที่ใช้งานง่าย ฟีเจอร์ครบครัน เหมาะกับนักเรียน นักศึกษา และคนทำงานที่ต้องการจดโน้ตบนไฟล์ PDF หรือต้องการแอปจดโน้ตที่มีประสิทธิภาพ แอดขอแนะนำแอปนี้เลย!

คะแนน: 9/10

Notability แอพจดบันทึก android

Notability เป็นแอพจดบันทึกที่เหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษา หรือคนที่ชอบจดบันทึกด้วยปากกาและกระดาษ มีฟีเจอร์ที่คล้ายกับ GoodNotes แต่มีจุดเด่นที่ความสามารถในการจดบันทึกด้วยเสียง 

Notability มีฟีเจอร์เด่น ๆ ดังนี้

  • รองรับการจดบันทึกด้วยปากกาและกระดาษเสมือนจริง
  • มีลายเส้นปากกาให้เลือกหลากหลาย
  • มีฟีเจอร์การไฮไลต์ ขีดเส้นใต้ และใส่สีสัน
  • สามารถเพิ่มรูปภาพและไฟล์เสียงได้
  • สามารถจดบันทึกด้วยเสียงได้

Notability เหมาะกับใคร?

  • นักเรียน นักศึกษา: Notability เหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษา ที่ต้องการจดเลคเชอร์ วาดรูป หรือทำสรุปบทเรียน
  • พนักงานออฟฟิศ: Notability เหมาะสำหรับพนักงานออฟฟิศ ที่ต้องการจดบันทึกระหว่างประชุม เขียนรายงาน หรือทำ mind map
  • ศิลปิน: Notability เหมาะสำหรับศิลปิน ที่ต้องการวาดรูป วาดภาพประกอบ หรือทำสตอรี่บอร์ด
  • บุคคลทั่วไป: Notability เหมาะสำหรับบุคคลทั่วไป ที่ต้องการจดบันทึกส่วนตัว วาดรูป หรือทำ to-do list

Notability มีค่าใช้จ่ายหรือไม่?

  • Notability เวอร์ชันฟรีสามารถใช้งานฟีเจอร์พื้นฐานได้ แต่ฟีเจอร์บางตัว เช่น การแปลงลายมือเป็นข้อความ การบันทึกเสียง และการสร้างโน้ตแบบ PDF จะต้องซื้อเวอร์ชันเต็มในราคา 139 บาท

สรุป: Notability เป็นแอปพลิเคชั่นจดโน้ตที่ครบครัน ใช้งานง่าย และมีฟีเจอร์เด็ดๆ มากมาย เหมาะสำหรับผู้ใช้งานทุกระดับ แอดขอแนะนำ Notability ให้กับทุกคนที่ต้องการยกระดับการจดบันทึกของคุณไปอีกขั้น!

คะแนน: 9/10

สรุป แอพจดบันทึก android

แอพจดโน๊ต samsung

ทั้ง 5 แอพจดบันทึก android ที่เราแนะนำมานั้น ล้วนแล้วแต่เป็นแอพที่ดีและได้รับความนิยม แต่ละแอปมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้ว่าต้องการแอพจดบันทึกแบบไหน แอปจดบันทึกทั้ง 5 นี้ ต่างมีจุดเด่นและเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน  Ultimately   แอปไหนที่เหมาะกับคุณมากที่สุด ขึ้นอยู่กับสไตล์การจดบันทึกและความต้องการของคุณ และหากคุณต้องการแอพจดบันทึกที่เน้นการจดบันทึกด้วยปากกาและกระดาษ Notability ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน

Tips

  • ลองใช้แอปจดบันทึกทั้ง 5
  • เลือกแอปที่เหมาะกับสไตล์การจดบันทึกของคุณ
  • explore ฟีเจอร์ต่าง ๆ ของแอป
  • backup โน้ตของคุณอย่างสม่ำเสมอ

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนที่กำลังมองหาแอพจดบันทึก Android นะคะ

หมายเหตุ

  • บทความนี้เขียนขึ้นเพื่อรีวิว แอพจดบันทึก android โดยไม่ได้รับค่าจ้างจากผู้พัฒนาแอป
  • บทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้น

อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ และติดตามแอดไว้ด้วยนะคะ

Categories
รีวิว

แอพจดบันทึก ฟรี

จดบันทึกยังไงให้ปัง ด้วย แอพจดบันทึก ฟรี

ในยุคดิจิทัลแบบนี้ การใช้ แอพจดบันทึก ฟรี เป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะช่วยให้เราสามารถจดบันทึกได้สะดวกรวดเร็ว ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถเข้าถึงบันทึกของเราได้ตลอดเวลา บทความนี้จะแนะนำแอพจดบันทึกฟรี ที่จะทำให้การจดบันทึก แนวทางหวยมาเลย์วันนี้ 4d ของคุณง่ายขึ้นกว่าเดิม

เหล่าผู้รักการจดบันทึกทั้งหลาย วันนี้เราขอมา รีวิวแนะนำ แอพจดบันทึก ฟรี ที่จะทำให้การจดบันทึกของคุณง่ายขึ้นกว่าเดิมแอพเหล่านี้มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย รองรับการใช้งานบนอุปกรณ์ต่างๆ ที่สำคัญคือฟรี! ไปดูกันเลยว่ามีแอพอะไรบ้าง

Google Keep

Google Keep เป็นแอพจดบันทึกยอดนิยมจาก Google มาพร้อมกับฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครัน แอพจดโน๊ต ipad 2023 ฟรี ไม่ว่าจะเป็นการจดบันทึกข้อความ วาดรูป บันทึกเสียง ใส่รูปภาพ ตั้งการแจ้งเตือน ฯลฯ นอกจากนี้ยังสามารถแชร์ แอพเลคเชอร์ ฟรี บันทึกกับผู้อื่นได้อีกด้วย

จุดเด่นของ Google Keep

  • แอพจดโน๊ต ipad 2023 ฟรี เรียบง่ายแต่ทรงพลัง Google Keep ออกแบบมาอย่างเรียบง่าย แต่อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์ที่หลากหลาย ช่วยให้คุณสามารถจดบันทึกได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
  • ใช้งานง่าย Google Keep ใช้งานง่ายมาก ๆ เพียงไม่กี่นาทีก็สามารถเริ่มต้นใช้งานได้ทันที รองรับทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
  • รองรับทุกอุปกรณ์ Google Keep รองรับ แอพสมุดบันทึก ios ทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ ให้คุณจดบันทึกได้ทุกที่ทุกเวลา
  • ฟีเจอร์ที่หลากหลาย Google Keep มีฟีเจอร์ที่หลากหลาย ช่วยให้คุณสามารถจดบันทึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น
    • จดบันทึกข้อความ
    • จดบันทึกเสียง
    • วาดภาพ
    • ใส่รูปภาพ
    • ตั้งเตือน
    • แชร์บันทึกกับผู้อื่น

รีวิวฟีเจอร์เด็ดของ Google Keep

  • จดบันทึกเสียง ฟีเจอร์นี้ช่วยให้คุณสามารถจดบันทึกได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องพิมพ์ข้อความ เพียงแค่พูดสิ่งที่ต้องการจดบันทึก เสียงของคุณจะถูกบันทึกเป็นข้อความลงในโน้ต
  • วาดภาพ ฟีเจอร์นี้ช่วยให้คุณสามารถวาดภาพประกอบหรือเขียนโน้ตด้วยลายมือลงในโน้ตได้ ช่วยให้บันทึกของคุณดูน่าสนใจและเข้าใจง่ายขึ้น
  • ใส่รูปภาพ ฟีเจอร์นี้ช่วยให้คุณสามารถใส่รูปภาพลงในโน้ตได้ ช่วยให้บันทึกของคุณดูมีสีสันและสื่อความหมายได้ชัดเจนขึ้น
  • ตั้งเตือน ฟีเจอร์นี้ช่วยให้คุณสามารถตั้งเตือนสำหรับโน้ตของคุณได้ ช่วยให้คุณไม่ลืมสิ่งที่ต้องทำ
  • แชร์บันทึกกับผู้อื่น ฟีเจอร์นี้ช่วยให้คุณสามารถแชร์บันทึกของคุณกับผู้อื่นได้ ช่วยให้คุณสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สรุป

Google Keep เป็นแอปจดบันทึกที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง ใช้งานง่าย รองรับทุกอุปกรณ์ และฟีเจอร์ที่หลากหลาย เหมาะสำหรับทุกคนที่ต้องการจดบันทึก ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน นักศึกษา คนทำงาน หรือบุคคลทั่วไป

แอพจดบันทึก ฟรี

OneNote

OneNote เป็น แอพสมุดบันทึกน่ารัก จาก Microsoft มาพร้อมกับฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครันเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการจดบันทึกข้อความ วาดรูป บันทึกเสียง ใส่รูปภาพ ใส่ลิงก์ ฯลฯ นอกจากนี้ยังสามารถแทรกไฟล์ต่างๆ ลงไปในบันทึกได้อีกด้วย

จุดเด่นของ OneNote

  • จัดระเบียบได้ง่าย OneNote ช่วยให้คุณสามารถจัดระเบียบโน้ตของคุณได้อย่างเป็นระบบ โดยใช้สมุดโน้ต (Notebooks) หัวข้อ (Sections) และหน้า (Pages) คุณสามารถแบ่งแยกโน้ตของคุณตามหัวข้อหรือตามช่วงเวลาที่ต้องการได้
  • รองรับการเขียนด้วยลายมือ OneNote รองรับการเขียนด้วยลายมือด้วยปากกาสไตลัสหรือนิ้วมือของคุณ คุณสามารถเขียนโน้ตได้อย่างอิสระและสวยงามเหมือนเขียนบนกระดาษ
  • มีฟีเจอร์มากมาย OneNote มีฟีเจอร์มากมายที่ช่วยให้คุณสามารถจดโน้ตได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การเพิ่มรูปภาพ วิดีโอ ไฟล์เสียง ลิงก์ และอื่นๆ อีกมากมาย
  • สามารถใช้งานได้บนทุกอุปกรณ์ OneNote สามารถใช้งานได้บนอุปกรณ์ทุกประเภท แอพสมุดบันทึก ios ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟน คุณสามารถเข้าถึงโน้ตของคุณได้ทุกที่ทุกเวลา

รีวิวการใช้งาน

แอดได้ทดลองใช้ OneNote เป็นเวลาหลายสัปดาห์ พบว่า OneNote เป็นแอปจดโน้ตที่ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก คุณสมบัติต่างๆ ของแอปช่วยให้แอดสามารถจดโน้ตได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

แอดชอบที่ OneNote สามารถจัดระเบียบโน้ตได้อย่างเป็นระบบ ทำให้แอดสามารถค้นหาโน้ตที่ต้องการได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังชอบที่ OneNote รองรับการเขียนด้วยลายมือ ทำให้แอดสามารถจดโน้ตได้อย่างเป็นธรรมชาติและจดจำได้ง่ายขึ้น

สำหรับฟีเจอร์ต่างๆ ของแอป แอดพบว่า OneNote มีฟีเจอร์ที่ครบครันและครอบคลุมทุกความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการเขียนโน้ต การสร้างงานนำเสนอ การจดบันทึกการประชุม หรือแม้แต่การจดบันทึกการเดินทาง OneNote สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งหมด

โดยรวมแล้ว แอดคิดว่า OneNote เป็นแอปจดโน้ตที่ยอดเยี่ยม เหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัยและทุกไลฟ์สไตล์ หากคุณกำลังมองหาแอปจดโน้ตดีๆ สักตัว OneNote เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุด

ข้อดีของ OneNote

  • จัดระเบียบได้ง่าย
  • รองรับการเขียนด้วยลายมือ
  • มีฟีเจอร์มากมาย
  • สามารถใช้งานได้บนทุกอุปกรณ์

ข้อเสียของ OneNote

  • เมนูอาจดูซับซ้อนเล็กน้อยสำหรับผู้ใช้ใหม่

สรุป

OneNote เป็นแอปจดโน้ตที่ยอดเยี่ยม เหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัยและทุกไลฟ์สไตล์ ด้วยคุณสมบัติที่ครบครันและใช้งานง่าย ทำให้ OneNote เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการแอปจดโน้ตที่มีประสิทธิภาพและใช้งานได้จริง

แอพจดบันทึก ฟรี Evernote

แอพจดโน๊ต ฟรี ยอดนิยมที่หลายคนรู้จักกันดี ว่ากันว่า Evernote เป็นคู่หูจดโน้ตสุดฉลาดที่ครบเครื่องทุกความต้องการ ทั้งการจดบันทึก การจัดเก็บ ค้นหา และแบ่งปันข้อมูล แต่จะจริงหรือไม่นั้น เราไปพิสูจน์กันดีกว่า

จุดเด่นของ Evernote

Evernote มีจุดเด่นมากมาย ดังนี้

  • ใช้งานง่าย เพียงไม่กี่ขั้นตอนก็สามารถเริ่มต้นใช้งาน Evernote ได้อย่างคล่องแคล่ว
  • มีฟีเจอร์ครบครัน ช่วยให้การจดบันทึกของคุณเป็นเรื่องง่าย ไม่ว่าจะเป็นการจดข้อความ วาดภาพ แทรกรูปภาพ ไฟล์แนบ หรือลิงก์
  • ค้นหาข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว Evernote มีระบบค้นหาที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้คุณสามารถค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย
  • สามารถแชร์โน้ตได้ ช่วยให้คุณสามารถแบ่งปันโน้ตกับเพื่อนร่วมงาน ครอบครัว หรือคนสำคัญได้

ฟีเจอร์เด็ดของ Evernote

นอกจากฟีเจอร์พื้นฐานที่กล่าวมาแล้ว Evernote ยังมีฟีเจอร์เด็ดอีกมากมาย ดังนี้

  • การจดบันทึกด้วยเสียง ช่วยให้คุณสามารถจดบันทึกได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องพิมพ์
  • การจดบันทึกด้วยกล้อง ช่วยให้คุณสามารถจดบันทึกรูปภาพหรือเอกสารได้อย่างรวดเร็ว
  • การจดบันทึกด้วยลายมือ ช่วยให้คุณสามารถจดบันทึกด้วยลายมือได้อย่างเป็นธรรมชาติ
  • การจดบันทึกแบบสเก็ตช์ ช่วยให้คุณสามารถจดบันทึกความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างอิสระ

ราคาของ Evernote

Evernote มีแผนการใช้งาน 3 แผน ดังนี้

  • แผน Basic ฟรี ใช้งานได้บนอุปกรณ์ 2 เครื่อง มีพื้นที่เก็บข้อมูล 60 MB
  • แผน Premium จ่ายเดือนละ 69 บาท ใช้งานได้บนอุปกรณ์ไม่จำกัด มีพื้นที่เก็บข้อมูล 10 GB
  • แผน Business เริ่มต้นที่ 129 บาทต่อผู้ใช้ต่อเดือน ใช้งานได้บนอุปกรณ์ไม่จำกัด มีพื้นที่เก็บข้อมูล 20 GB

สรุป

Evernote เป็นแอปพลิเคชันจดโน้ตที่ครบเครื่องและใช้งานง่าย เหมาะสำหรับทุกคนที่ต้องการจดบันทึก การจัดเก็บ ค้นหา และแบ่งปันข้อมูล ถึงแม้ว่าแผน Basic จะมีฟีเจอร์จำกัด แต่ก็สามารถใช้งานได้เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปแล้ว ถ้าหากต้องการใช้ฟีเจอร์ที่ครบครันมากขึ้น ก็สามารถเลือกแผน Premium หรือ Business ได้ตามความต้องการ

แอพเลคเชอร์ ฟรี

แอพจดโน๊ต ฟรี Notion

Notion เป็นแอพจดบันทึกที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการจดบันทึกข้อความ วาดรูป บันทึกเสียง ใส่รูปภาพ ใส่ลิงก์ ฯลฯ นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่ารูปแบบบันทึกได้ตามต้องการอีกด้วย

Notion เป็นเว็บแอปพลิเคชันสำหรับจดบันทึกและจัดระเบียบข้อมูล ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ด้วยจุดเด่นที่ใช้งานง่าย ยืดหยุ่นสูง และสามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่จดโน้ตส่วนตัว ไปจนถึงบริหารจัดการงานแบบทีม

Notion ทำอะไรได้บ้าง?

Notion สามารถทำได้หลากหลายอย่าง ยกตัวอย่างเช่น

  • จดโน้ต : Notion สามารถใช้จดโน้ตได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะจดบันทึกสั้น ๆ หรือจดบันทึกยาว ๆ ก็สามารถจัดระเบียบข้อมูลได้อย่างเป็นระบบ
  • จัดการงาน : Notion สามารถใช้ในการจัดการงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนงาน กำหนดเวลาส่งงาน หรือติดตามความคืบหน้าของงาน
  • สร้างฐานข้อมูล : Notion สามารถใช้ในการสร้างฐานข้อมูลสำหรับเก็บข้อมูลต่าง ๆ เช่น ข้อมูลลูกค้า ข้อมูลผลิตภัณฑ์ หรือข้อมูลความรู้
  • ทำงานร่วมกัน : Notion สามารถใช้ในการทำงานร่วมกันแบบทีมได้อย่างสะดวก ไม่ว่าจะแชร์ข้อมูลหรือทำงานร่วมกันในเอกสารเดียวกัน

ข้อดีของ Notion

Notion มีข้อดีมากมาย ยกตัวอย่างเช่น

  • ใช้งานง่าย : Notion มีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย แม้จะไม่เคยใช้มาก่อนก็สามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว
  • ยืดหยุ่นสูง : Notion สามารถปรับแต่งได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะใช้จดโน้ต จัดการงาน หรือสร้างฐานข้อมูล
  • ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ : Notion สามารถใช้ได้ทั้งแบบส่วนตัวและแบบทีม

ข้อเสียของ Notion

Notion ก็มีข้อเสียอยู่บ้าง ยกตัวอย่างเช่น

  • เริ่มต้นอาจยาก : สำหรับคนที่ไม่เคยใช้มาก่อน อาจต้องใช้เวลาเรียนรู้สักหน่อย
  • อาจมีค่าใช้จ่าย : สำหรับการใช้งานแบบทีม อาจมีค่าใช้จ่าย

สรุป

Notion เป็นแอปพลิเคชันสุดเจ๋งที่ทำได้หลากหลายอย่าง เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเครื่องมือที่ใช้งานง่าย ยืดหยุ่นสูง และใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ

หากใครกำลังมองหาแอปพลิเคชันสำหรับจดบันทึก จัดการงาน หรือสร้างฐานข้อมูล Notion ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจค่ะ

Simplenote

Simplenote คือแอปบันทึกย่อที่พัฒนาโดย Automattic บริษัทแม่ของ WordPress ค่ะ จุดเด่นของแอปนี้คือความเรียบง่าย ใช้งานง่าย มีฟีเจอร์พื้นฐานที่จำเป็นครบถ้วน ที่สำคัญคือฟรี!

จุดเด่นของ Simplenote

  • ใช้งานง่าย หน้าตาของแอปเรียบง่าย สะอาดตา ใช้งานง่าย แม้แต่มือใหม่ก็สามารถหัดใช้ได้อย่างรวดเร็ว
  • ฟีเจอร์พื้นฐานครบถ้วน Simplenote มีฟีเจอร์พื้นฐานที่จำเป็นสำหรับบันทึกย่อครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น การสร้างบันทึกย่อ การแก้ไขบันทึกย่อ การแท็กบันทึกย่อ การแบ่งปันบันทึกย่อ การซิงค์บันทึกย่อข้ามอุปกรณ์
  • ฟรี Simplenote ให้บริการฟรี ใช้งานได้ทุกฟีเจอร์ไม่มีจำกัด

จุดด้อยของ Simplenote

  • ไม่มีฟีเจอร์ขั้นสูง Simplenote ไม่มีฟีเจอร์ขั้นสูง เช่น การจัดกลุ่มบันทึกย่อ การสร้างโน้ตบุ๊ก การเพิ่มสื่อต่างๆ ให้กับบันทึกย่อ เป็นต้น
  • ความปลอดภัย Simplenote ไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนว่าใช้การเข้ารหัสแบบใด ทำให้มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยอยู่บ้าง

รีวิวการใช้งาน Simplenote

แอดได้ใช้งาน Simplenote มาได้สักพักหนึ่งแล้ว รู้สึกประทับใจในความเรียบง่ายและใช้งานง่ายของแอปเป็นอย่างมาก ฟีเจอร์พื้นฐานที่จำเป็นครบถ้วน ตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการจดบันทึกความคิด จดบันทึกงาน จดบันทึกการเดินทาง เป็นต้น

แอดชอบที่ Simplenote รองรับ Markdown ทำให้สามารถปรับแต่งรูปแบบของบันทึกย่อได้ตามต้องการ ช่วยให้อ่านง่ายและเข้าใจง่ายขึ้น นอกจากนี้ Simplenote ยังมีโหมดโฟกัสที่ช่วยตัดสิ่งรบกวนรอบตัว ทำให้จดบันทึกได้สมาธิมากขึ้น

สรุป

Simplenote เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการแอปบันทึกย่อที่ใช้งานง่าย ฟีเจอร์พื้นฐานครบถ้วน และฟรี อย่างไรก็ตาม หากต้องการฟีเจอร์ขั้นสูงหรือความปลอดภัยที่สูงขึ้น อาจต้องพิจารณาแอปอื่นๆ แทน

แอพสมุดบันทึกน่ารัก

เกร็ดความรู้ แอพจดบันทึก ฟรี

รู้หรือไม่ว่า การจดบันทึกเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้เราจดจำข้อมูลได้ดีขึ้น โดยการจดบันทึกด้วย แอพจดบันทึก ฟรี ช่วยให้เราประมวลผลข้อมูลและจัดระเบียบความคิดของเรา ทำให้เราสามารถเข้าใจข้อมูลได้ดีขึ้นและนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่

เคล็ดลับการจดบันทึก

  • กำหนดวัตถุประสงค์ในการจดบันทึก
  • จดบันทึกให้กระชับ ชัดเจน
  • ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย
  • ใส่ใจรายละเอียด
  • บันทึกอย่างสม่ำเสมอ

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคุณนะคะ พบกันใหม่ในบทความหน้าสวัสดีค่ะ

Categories
รีวิว

5 แอพจดบันทึก ipad ที่ควรมีติดเครื่องไว้

สำหรับคนที่มีไอแพดทุกคน คงจะมองหา แอพจดบันทึก ipad มาใช้งานเพราะ แอพจดบันทึก มีประโยชน์ในการเรียนและการทำงานอย่างมาก และแม้ว่าคนส่วนใหญ่จะให้ความสนใจกับ แอปช้อปปิ้งออนไลน์ มากกว่าแอพจดบันทึก แต่แอพจดบันทึกถือว่าเป็นแอพที่หลายคนชอบใช้ แต่บางคนใช้แอพเหล่านี้ในการจดเลข ทะเบียนนายก งวดวันที่ 1 เมษายน 2567

ต้องยอมรับว่า แอพจดโน๊ต android ฟรี มีให้เลือกใช้มากมาย แต่สำหรับคนใช้ไอแพด แอพจดโน๊ต ipad ฟรี มีให้เลือกใช้น้อยมาก ส่วนใหญ่เป็นแอพที่เสียเงิน แต่ก็เป็นแอพที่ใช้งานง่าย และมีเครื่องมือที่ดีกว่าแอพฟรีทั่วไป และราคาแอพก็ไม่แพงมาก ใครที่ต้องจดบันทึก การจ่ายเงินคุ้มค่ามาก

ในบทความนี้เราได้รวบรวม แอพจดบันทึกในไอแพดมาฝากกัน ซึ่งแต่ละแอพมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป ใครที่ตั้งใจซื้อไอแพดมาสำหรับจดบันทึก หรือจดงานสำคัญ ๆ คุณจำเป็นต้องใช้งานแอพเหล่านี้ เพราะนี่คือเครื่องมือช่วยที่สำคัญมาก ๆ

แอพจดบันทึก ipad มีประโยชน์ยังไงบ้าง ?

สำหรับคนที่ชินกับการใช้ แอพ จดเลคเชอร์ android แต่เมื่อมาใช้ไอแพดหาแอพจดบันทึกมาใช้งานยากมาก เพราะมีให้บริการเพียงไม่ก่แอพ และส่วนใหญ่เป็นแอพที่มีค่าใช้จ่ายรายเดือน แต่ค่าบริการไม่แพงมากนะคะ

แอพจดบันทึก ถือว่าเป็นแอพที่มีประโยชน์มาก ๆ เพราะเมื่อเรามีไอเดียใหม่ ๆ สามารถสร้างสรรค์ไอเดียลงไปได้อย่างอิสระ สามารถวาดรูปและเขียนได้สะดวก และสามารถจดโน๊ตได้ตามสไตล์ของตัวเองเลยนะ 

แนะนำ 5 แอพจดบันทึก ipad ใช้งานง่าย มีแอพอะไรบ้าง ?

วันนี้เราได้คัด 5 แอพจดบันทึกที่ใช้งานง่าย และเป็นที่นิยมไปทั่วโลกมาฝากกันค่ะ โดยแต่ละแอพจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป และมีค่าบริการรายเดือนที่ต่างกันด้วย ใครที่มีไอแพดแต่ไม่เคยใช้แอพเหล่านี้ บอกเลยว่าคุณพลาดมาก

Note

แอพนี้คือแอพที่คนในกระทู้ แอพจดโน๊ต ipad ฟรี pantip แนะนำมากที่สุด เพราะเป็นแอพที่ฟรีจริง ๆ และเป็นแอพของ iOS ที่สามารถทำได้หลากหลาย เพราะมีคลิปสอน วิธีเขียนโน๊ตในไอแพด ที่สามารถใช้เครื่องมือในแอพโน๊ตได้หากหลายและเป็นประโยชน์มากที่สุด

ซึ่งโน๊ตคือแอพพื้นฐาน ที่มากับเครื่องไอแพดอยู่แล้ว และยังเป็นแอพที่สามารถสแกนเอกสาร จดบันทึกได้เลย และมีปากกาให้เลือกหลากหลายสไตล์ ซึ่งถือว่าเป็นแอพจดบันทึกใช้งานง่ายที่ฟรี และบันทึกได้ง่ายมาก

Goodnotes

วิธีเขียนโน๊ตในไอแพด

สำหรับคนที่มองหา วิธีใช้โน๊ต ในไอแพด แนะนำให้เริ่มจากแอพนี้เลย เพราะนี่เป็นแอพที่มีความครบครันมาก ๆ เพราะนอกจากจะใช้จดบันทึกแล้ว ยังสามารถสเก็ตช์ภาพ หรือจะบันทึกเสียงลงไปก็ได้ และยังเปลี่ยนลายมือเป็นฟอนต์น่ารัก ๆ ได้ด้วย

นอกจากนี้ แอพนี้ยังเป็น แอพเขียน pdf ipad ฟรี ที่ใช้งานง่าย มีกระดาษโน๊ตให้เลือกหลากหลายแบบ และสามารถปรับแต่งตัวอักษรได้อย่างอิสระ และยังเป็นแอพบันทึกที่สามารถจัดระเบียบข้อมูลได้ดี และมีระเบียบว่าแอพอื่น ๆ

หลายคนมองหา วิธีใช้โน๊ต ในไอแพด โดยใช้แอพนี้ เพราะเป็นแอพที่สามารถเขียนแล้วแปลงเป็นฟ้อนต์สวย ๆ ได้ และยังเป็นแอพที่มีความปลอดภัยสูง และได้รับความนิยมสูงสุดอีกด้วย และคุณยังแชร์โน๊ตให้กับเพื่อนได้ด้วย ราคา 249 บาทต่อปี

แอพเขียน pdf ipad ฟรี

Notability

แอพนี้ถือว่าเป็น แอพ เขียนเอกสาร ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน แต่แอพนี้จะเด่นมากในการจดบันทึกด้วยเสียง และการบันทึกเสียง และการแก้ไขเอกสาร PDF ซึ่งเป็นเอกสารที่แก้ไขยาก แต่แอพนี้ทำได้ง่าย ๆ แค่ปลายนิ้วเลยนะ ราคา 179 บาทต่อปี

สาเหตุที่คนส่วนใหญ่เลือกใช้แอพนี้ เพราะมีค่าบริการที่ไม่สูงเกินไป และมีเครื่องมือการจดบันทึกที่ครบครันมาก รวมถึงระบบการแก้ไขเอกสาร ยังทำออกมาได้ดี เหมาะสำหรับคนที่ทำงานออฟฟิศ ที่ต้องแก้ไขเอกสารเป็นประจำ

Paper

แอพนี้ถือว่าเป็น แอพ เขียนเอกสาร ที่หลายคนบอกว่าใช้งานง่าย และรูปแบบของแอพยังเรียบง่ายมาก เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบเครื่องมือที่เยอะเกินไป แต่มีดินสอ ปากกา และมีไฮไลท์ก็เพียงพอต่อการจดบันทึกแล้ว จุดเด่นของแอพนี้คือ ระบบการซิงค์อุปกรณ์ที่สามารถซิงค์ได้ทุกอุปกรณ์ที่ทำงานบน iOS ได้เลย ราคา 199 บาทต่อปี

แอพ เขียนเอกสาร

Collanote

สำหรับแอพนี้ถือว่าเป็น แอพจดโน๊ต ipad ฟรี ที่มีเครื่องมือให้เลือกใช้งานที่ครบครัน รวมถึงยังเป็นแอพจดบันทึกที่หลายคนชื่นชอบ เพราะไม่มีค่าบริการ และมีเครื่องมือการจดบันทึกที่แตกต่างจากแอพ Note ที่มากับตัวเครื่อง

สำหรับใครที่มองหา แอพ เขียนเอกสาร ที่ใช้งานง่าย และไม่มีค่าใช้จ่าย แอพนี้ถือว่าเป็นแอพ ที่ตอบโจทย์การใช้งานมาก ๆ และมีฟังก์ชันการบันทึกเสียงด้วยนะ และผู้ใช้งานยังสามารถเลือกกระดาษสำหรับจดบันทึกได้ตามต้องการด้วย แอพนี้ถือว่าเป็นแอพฟรีที่ทุกคนบอกต่อจริง ๆ

สรุป แอพจดบันทึก ipad ที่ได้รับความนิยมที่สุดคือแอพอะไร ?

ต้องยอมรับว่า แอพจดโน๊ต ipad ฟรี หายากมาก แต่ถ้าใครที่รู้ วิธีใช้โน๊ต ในไอแพด จะรู้ว่าแอพโน๊ตเป็นแอพจดบันทึกที่ใช้งานง่าย สะดวกและมีประโยชน์มาก โดยเฉพาะคนที่เป็นคนทำงาน หรือนักเรียนนักศึกษา แอพเหล่านี้มีประโยชน์มาก ๆ

สำหรับใครที่ใช้ไอแพด หวังว่าบทความแนะนำแอพจดบันทึก ipad จะเป็นประโยชน์กับคุณนะคะ ใครที่ใช้ Android ครั้งหน้าเราจะนำแอพจดบันทึกสำหรับแอนดรอยด์ มาแนะนำเพิ่มเติมกันค่ะ เพราะมีแอพจดบันทึกที่น่าสนใจหลายแอพเลยล่ะ

Categories
รีวิว

รวม 5 แอพจดบันทึก ใช้งานง่าย พร้อมเคล็ดลับที่คุณอาจไม่เคยรู้

หากจะพูดถึง แอพจดบันทึก ถือว่าเป็นแอพที่ได้รับความนิยมไม่แพ้ แอปช้อปปิ้ง เลยนะคะเพาะเป็นแอพที่เพิ่มความสะดวกสบายให้กับการจดบันทึก ไม่ว่าจะเป็น บันทึกการประชุม หรือการบันทึกสิ่งสำคัญต่าง ๆ บางคนใช้สำหรับจด แนวทางหวยลาววันนี้ 

ในปัจจุบันมี แอพจดโน๊ต ฟรี ให้เลือกใช้มากมาย แต่ส่วนใหญ่เป็น แอพจดบันทึก iphone มากกว่าใน Android นั่นอาจจะเป็นเพราะมีนักพัฒนาแอพลิเคชั่น เล็งเห็นว่าคนส่วนใหญ่ใช้ ไอโฟนและไอแพดในการจดโน๊ตมากกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นอื่น ๆ

แต่ในบทความนี้ เราไม่ได้นำเพียง แอพจดบันทึก iphone มาแนะนำเท่านั้น แต่เราได้รวบรวม แอพสมุดบันทึกฟรี มาฝากกันมากถึง 7 แอพเลยนะคะ ซึ่งแต่ละแอพจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป ทุกคนสามารถเลือกใช้ตามความชอบได้เลยค่ะ

แอพจดบันทึก คือแอพสำหรับอะไร ?

หากจะพูดถึงแอพจดบันทึก ต้องยอมรับว่าเป็นแอพ ที่มีเพียงบางคนเท่านั้นที่ใช้ เพราะสมาร์ทโฟนแต่ละรุ่น จะมีแอพโน๊ตมาให้สำหรับบันทึกอยู่แล้ว แต่บางคนเลือกโหลด แอพจดโน๊ต ฟรี มาใช้เพิ่มเติมเพราะมีฟังก์ชัน และรูปแบบการใช้งานที่สะดวก และมีประโยชน์ในการทำงานมากกว่านั่นเอง

สำหรับ แอพโน๊ต ไอโฟน และ แอพจดโน๊ต android ฟรี ที่มีมาให้กับเครื่องนั้น ส่วนใหญ่เป็นแอพจดบันทึกพื้นฐาน ที่ไม่ได้มีลูกเล่นมาก ใช้จดเพื่อเตือนความจำ ซึ่งเครื่องมือของแอพจะมีความแตกต่างจาก แอพ จดเลคเชอร์ Android

และแน่นอนว่าแอพจดบันทึกส่วนใหญ่ ออกแบบมาเพื่อการเรียนและการทำงาน บางแอพสามารถเขียนแบบได้ บางแอพสามารถจดด้วยลายมือน่ารัก เพื่อทำสรุปการเรียนได้ หรือบางแพยังช่วยจดสูตรคณิตศาสตร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยนะ

แนะนำ แอพสมุดบันทึกฟรี ที่ควรมีติดเครื่อง มีแอพไหนบ้าง ?

สำหรับ แอพสมุดบันทึกฟรี ที่เรานำมาฝาก ส่วนใหญ่เป็นแอพที่ใช้งานได้ฟรี และมีประโยชน์ในการบันทึกมาก ๆ มีลูกเล่นมากกว่าแอพจดบันทึก iphone และยังเป็นแอพที่ได้รับความนิยมในการเรียนอีกด้วย โดยเราได้เลือกมาแนะนำกันมากถึง 7 แอพเลยนะคะ

แอพสมุดบันทึกฟรี

TRELLO

แอพนี้ถือว่าเป็นแอพ ที่คนทำงานชอบมาก ๆ เพราะนี่ไม่ใช่แอพสำหรับจดบันทึกเท่านั้น แต่เป็นแอพที่สามารถจัดตารางงานให้มีระเบียบมากขึ้นด้วย รวมถึงแอพ TRELLO ยังสามารถใช้ในองค์กร เพื่อตรวจสอบความคืบหน้าของงานได้ดี ทำให้แอพนี้กลายเป็น แอพจดบันทึก ที่คนทำงานใช้มากที่สุด อีกหนึ่งแอพเลยนะ

ข้อดีของแอพ TRELLO คือ เป็นแอพที่ใช้งานง่าย มีฟีเจอร์ให้เลือกหลากหลาย และยังเป็นแอพที่สามารถกำหนดระยะเวลาการทำงาน เพื่อตรวจสอบได้สะดวกมากขึ้นด้วย

GOOGLE TASKS

แอพนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแอพสารพัดประโยชน์ ที่คุณควรมีติดเครื่องเอาไว้ เพราะนี่ถือว่าเป็น แอพที่ช่วยให้คุณสามารถจัดตารางงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาจจะไม่ใช่แอพจดบันทึกงาน แต่เป็นแอพบันทึกตารางงาน ที่ช่วยให้คุณจัดเวลาทำงานในแต่ละวันได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง

ข้อดีของแอพ GOOGLE TASKS คือ ใช้งานด้วยอีเมล์ Gmail ได้เลย เป็นแอพจัดตารางงาน ที่ใช้ได้ฟรี สามารถใช้ร่วมกับแอพอื่น ๆ ของ Google ได้ดีมาก

HOUR BLOCKS

สำหรับแอพ HOUR BLOCKS ถือว่าเป็นแอพบันทึกตารางงาน ที่แตกต่างจากแอพ GOOGLE TASKS แต่เป็นแอพที่มีฟีเจอร์เด็ดเยอะมาก ๆ สามารถกำหนดทุกชั่วโมงของคุรได้อย่างสร้างสรรค์ แบบเป็นตัวเองได้แบบสุด ๆ

ข้อดีของแอพ HOUR BLOCKS คือ เป็นแอพที่มีตารางเวลาให้ 24 ชั่วโมง สามารถออกแบบเวลาได้หลากหลาย มีหมวดหมู่ให้เลือกใช้หลากหลาย และมีระบบการแจ้งเตือนที่ดีมาก ๆ

แอพจดโน๊ต ฟรี

แอพจดบันทึก GOODNOTE

นี่ถือว่าเป็น แอพจดบันทึกขวัญใจนักเรียน นักศึกษาเลยก็ว่าได้ เพราะแอพนี้ถือว่าเป็นแอพที่สามารถจดโน๊ต ด้วยลายมือที่น่ารัก สามารถใส่สีสันที่สดใสได้ และยังสามารถวาดรูปที่ต้องการลงไปได้ด้วย แอพนี้ถือว่าเป็นแอพจดบันทึกที่สามารถใส่จินตนาการได้อย่างเต็มที่ 

ข้อดีของแอพ GOODNOTE คือ รองรับ Apple Pencil สามารถบันทึกด้วยลายมือของเราเองได้ สามารถจดได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น รูปภาพ วาดภาพ แผนภูมิ หรือใส่สูตรต่าง ๆ และยังสามารถซิงค์ข้อมูลเพื่อใช้งานในอุปกรณ์อื่น ๆ ได้ด้วยนะ

NOTABILITY

แอพนี้ถือว่าเป็นแอพจดบันทึก สำหรับคนที่ชอบจดบันทึกเลยล่ะ เหมาะสำหรับนักเรียน และคนทำงาน แอพนี้สามารถจดบันทึกควบคู่กับการเพิ่มไฟล์เอกสาร หรือไฟล์รูปต่าง ๆ ได้ด้วย รวมถึงการอัดเสียง ก็สามารถทำได้อย่างสร้างสรรค์

ข้อดีของแอพ NOTABILITY คือ เป็นแอพจดบันทึกที่รองรับทุกระบบปฏิบัติการ สามารถใช้ได้กับทุกอุปกรณ์ และยังสามารถอัดเสียงเพื่อช่วยบันทึกได้ด้วย ใครที่ชอบการจดบันทึกแบบครบครัน 

แอพจดบันทึก iphone

PLANNER PRO

แอพนี้ถือว่าเป็นแอพที่มีความครบครันมาก ๆ สามารถจดบันทึก จัดตารางงาน ได้ในแอพเดียว ทำให้คุณสามารถบันทึกและจัดสรรตารางงานในแต่ละวันได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ทำให้คุณสามารถวางแผนการทำงานในแต่ละวัน ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ข้อดีของแอพ PLANNER PRO คือ เป็นแอพที่สามารถบันทึกและจัดตารางงานได้ในแอพเดียว และเป็นแอพที่ใช้งานง่าย และยังสามารถทำงานร่วมกับแอพงานอื่น ๆ ได้ด้วยนะ เรียกว่าเป็นแอพสารพัดประโยชน์สำหรับคนทำงานจริง ๆ ค่ะ

สรุปเหตุผลที่ควรมี แอพจดบันทึก ติดมือถือไว้

สำหรับคนที่สงสัยว่า ทำไมเราต้องดาวน์โหลดแอพจดบันทึก ipad หรือแอพจดบันทึกเพิ่มเติม ซึ่งแอพเหล่านี้เป็นแอพที่มีประโยชน์สำหรับนักเรียน นักศึกษา และคนทำงานมากเลยนะ เพราะสามารถจดบันทึกสิ่งที่เรียนรู้ บันทึกการประชุม และบันทึกงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ซึ่งแอพจดบันทึก มีให้เลือกใช้งานมากมาย แต่แอพที่ได้รับความนิยมที่สุดคือ GOODNOTE เพราะเป็นแอพที่มีขั้นตอนการใช้งานง่าย มีรูปแบบการจดบันทึกให้เลือกหลากหลาย สามารถเลือกตามความต้องการของผู้ใช้งานได้เลย เรียกว่าเป็น แอพจดโน๊ต ฟรี ที่มีประโยชน์มากจริง ๆ ค่ะ

Categories
รีวิว

แอปChatGPT พลิกโฉมการสนทนา และเพิ่มศักยภาพประสบการณ์ดิจิทัล ของคุณด้วยปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูง

แอปChatGPT รีวิวแอปแชทเพื่อความสะดวกสบาย คู่สนทนาที่เป็นเพื่อนที่ดีสำหรับคุณ

แอปChatGPT เป็นแอปสุดเจ๋ง ที่ให้คุณได้พูดคุยสนทนา กับโปรแกรมคอมพิวเตอร์อัจฉริยะได้ ซึ่งเหมือนกับคุยกับเพื่อน ที่ฉลาดจริง ๆ ที่รู้เรื่องต่าง ๆ มากมาย มาเจาะลึกรายละเอียด ของแอพนี้ด้วยภาษาง่าย ๆ ซึ่งสิ่งที่ดีที่สุดเกี่ยวกับ Chat GPT คือความมีประโยชน์ คุณสามารถถามคำถาม ที่เกี่ยวกับอะไรก็ได้ และแอปจะพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้คำตอบแก่คุณ

รวมถึงเรื่องประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และแม้แต่สภาพอากาศ หากคุณต้องการคำแนะนำ แอปนี้ก็สามารถ ให้คำแนะนำได้เช่นกัน ซึ่งก็เหมือนมีเพื่อน ที่เป็นประโยชน์ของคุณ และสิ่งที่น่าทึ่งอย่างหนึ่ง ที่เกี่ยวกับแอปChatGPT คือมันเข้าใจสิ่งที่คุณพิมพ์ แม้ว่าคุณจะไม่ได้ใช้คำ หรือ ไวยากรณ์ที่สมบูรณ์แบบ Chat GPT ก็ยังเข้าใจสาระสำคัญ ของสิ่งที่คุณกำลังหมายถึงแอปChatGPT

เป็นแอปที่ค่อนข้างฉลาด มันทำให้การสนทนา ได้ดำเนินต่อไป และพยายามทำให้น่าสนใจ เหมาะสำหรับเวลาที่คุณเบื่อ หรือ ต้องการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ แต่ก็มีข้อเสียเล็กน้อยบาง ซึ่งสิ่งที่ต้องจำไว้ คือบางครั้งแอปChatGPT อาจไม่มีคำตอบ ที่ถูกต้องทั้งหมดให้คุณ แต่แอปก็จะพยายามอย่างเต็มที่

แต่ก็อาจไม่สมบูรณ์แบบ สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่า แอป AI นี้เป็นเพียงโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ไม่มีความคิด หรือ ความรู้สึกเหมือนคนจริง ๆ ดังนั้นโปรดใช้วิจารณญาณ และอย่าถือเอาทุกสิ่งที่กล่าวว่า เป็นความจริงอย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้ chatgpt ภาษาไทย สามารถใช้พิมเพื่อสนทนาได้ เพราะในปัจจุบันแอปนี้ สามารถเข้าใจ และตอบคำถามในภาษาไทยได้ 

โดยสรุปแล้วแอปChatGPT เป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยม สำหรับการสนทนาที่สนุกสนาน chatgpt ภาษาไทย ในปัจจุบันก็รองรับแล้ว พร้อมที่จะหาข้อมูลให้คุณ ซึ่งก็เหมือนกับมีเพื่อนที่ฉลาด ๆ อยู่ในคอมพิวเตอร์ หรือ โน้ตบุ๊กของคุณ

ที่พร้อมจะช่วยเหลือ เวลาที่คุณต้องการเสมอ แต่อาจจะมีข้อเสียที่ว่า แอปอาจจะไม่มีคำตอบทั้งหมด หรือ มีคำตอบที่ไม่ตรง ตามความต้องการของคุณ เพราะฉะนั้น ใช้วิจารณญาณของคุณเอง และลองสนุกกับการแชท กับเพื่อนดิจิทัล คนใหม่ของคุณได้เลย

Categories
รีวิว

แนะนำแอปแต่งรูป แอปยอดนิยม ที่โดนใจที่สุด

แนะนำแอปแต่งรูป แต่งภาพสวยใช้งานง่ายมีแอปไหนที่น่าสนใจบ้าง ? 

แนะนำแอปแต่งรูป อีกหนึ่งแอปที่กำลังได้รับความนิยม เป็นอย่างมากในขณะนี้โดยเฉพาะบรรดาเหล่าหนุ่มสาว ที่กำลังได้ให้ความสนใจเป็นอย่างมากที่เป็น ที่ต้องยอมรับเลยว่าแอปแต่งรูปนั้น โปรแกรมแต่งรูปในโทรศัพท์ ก็มีให้เลือกอย่างมากมาย ซึ่งในวันนี้ก็จะมาแนะนำแอปแต่งรูป ที่น่าสนใจและกำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้ว่ามีอะไรบ้าง 

แนะนำแอปแต่งรูป

VSCO เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมที่จะน่าสนใจ แนะนำแอปแต่งรูป ที่มีฟิลเตอร์สีให้เลือกอย่างหลากหลาย แอปแต่งรูปเนียนๆ ที่มีโทนสีที่สุดสวย และงานอาร์ตแบบสุด ๆ ที่ทำให้เป็นที่ชื่นชอบ และเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก ที่เหมาะอย่างมากสำหรับสายฮิปสเตอร์โดยเฉพาะ 

PICSART อีกหนึ่งแอปที่น่าสนใจ แนะนำแอปแต่งรูป ที่เป็นแแอปที่มีฟังก์ชั่นการใช้งาน ที่ครบถ้วนมากที่สุด ที่มีให้เลือกเล่นอย่างมากมาย ที่มีจุดเด่นที่ผู้ใช้งาน ก็สามารถนำสติกเกอร์น่ารักมาแปะไว้ที่ข้อความได้อีกด้วย ตลอดจนไปถึงพื้นหลัง ก็สามารถปรับแต่งได้ตามใจชอบอีกด้วยเช่นกัน 

Foodie อีกหนึ่งแอปที่เหมาะอย่างมาก แนะนำแอปแต่งรูป สำหรับการถ่ายรูปรีวิวอาหาร ที่มีลูกเล่นที่ฟิลเตอร์ แอปแต่งรูปเนียนๆ ที่มีสีที่เหมาะกับ อาหารที่หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นสายขนมหวาน หรือว่าจะเป็นอาหารคาวต่าง ๆ ที่มีฟังก์ชั่นการใช้งาน โปรแกรมแต่งรูปในโทรศัพท์ ที่ทำให้อาหารนั้นดูน่ารับประทานทานมากยิ่งกว่าเดิมอีกด้วย นอกจากนี้ ก็ยังสามารถบันทึกภาพเคลื่อนไหว ส่งไปยั่วยวนให้แก่เพื่อน ๆ ในโลกออนไลน์ได้อีก ที่เหมาะอย่างมากสำหรับนักรีวิวอาหาร

Categories
รีวิว

google meet กับการประชุมทางวิดีโอ และการโทรทางออนไลน์

google meet ทำไมถึงได้รับความนิยมอย่างมาก หรือเป็นเพราะว่าgoogle meet ใช้ฟรี

google meet ในปัจจุบันอย่าง Google meeting ได้กลายเป็นตัวช่วยที่มีการ รีวิว มากที่สุดเพราะเป็นแพลตฟอร์ม ที่ทำให้เกิดการประชุมออนไลน์ เพื่อการใช้งานในเชิงธุรกิจ ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และเป็นวิธีการประชุมระยะไกล ที่เสมือนจริง และเป็นที่นิยมมากที่สุด เพราะมีประสิทธิภาพ ที่เชื่อถือได้รวมไปถึงช่วย เรื่องการสื่อสารอย่างมีระบบ

Google Meet เรียกได้ว่าเป็นแพลตฟอร์ม ของการประชุมที่ได้มี การพัฒนามาจาก Google ให้ผู้คนทั่วไปสามารถ ใช้งานการประชุมออนไลน์ หรือที่เรียกว่า เข้าmeet รวมถึงยังช่วยให้เกิดการสัมมนา ผ่านทางเว็บไซต์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

และถ้าหากอยากจะได้ แบบแฮงเอาท์ก็สามารถทำได้ด้วย ซึ่งรองรับผู้เข้าร่วม ได้สูงสุดถึง 250 คนที่เด็ดและน่าสนใจ คือแพลตฟอร์มนี้เป็นการ ใช้งานได้แบบฟรี ๆ และสามารถเข้าถึง ด้วยการผ่านทางเว็บเบราว์เซอร์ หรือไม่ก็อาจจะใช้ผ่าน ทางแอปพลิเคชันมือถือของ Google Meet โดยตรง

ซึ่งโปรแกรมกูเกิ้ลมีทนั้น จะได้นำเสนอที่มีมากมายหลายอย่าง ตัวอย่างเช่นการแชร์หน้าจอ เพื่อการบรรยายแบบเรียลไทม์ และยังสามารถทำ ภาพพื้นหลังที่เสมือนจริงได้อีกด้วย ทำให้กลายเป็นตัวเลือก ที่เหมาะสมและน่าสนใจ ของบรรดาธุรกิจต่าง ๆ ที่อยากจะได้หรือกำลังเลือก การใช้งานเพื่อประชุม ทางออนไลน์ได้นั่นเองค่ะ

และกูเกิ้ลมีทนั้นได้มี การเปิดตัวครั้งแรกตอนปี 2017 และตั้งแต่นั้นมาก็ได้รับความนิยม มาอย่างต่อเนื่อง และทำให้การเข้าถึง มีเพิ่มขึ้นมากทุกที ซึ่งอาจจะเกิดมาจาก หลายปัจจัย ซึ่งอันแรกที่เราเห็นกันชัด ๆ เลยก็คือเรื่องของ การแพร่ระบาดของไวรัส

ทำให้การทำงาน และธุรกิจจำนวนมาก ก็เลยต้องหันมาทำงานกันที่บ้าน และทำการประชุม โดยใช้วิธีการประชุม ระยะไกลแทน

ซึ่งเราก็ปฏิเสธไม่ได้ ว่าค่าความนิยมของการ โหลด google meet ในคอม ในตอนนั้นได้เกิดขึ้นมา แบบถล่มทลายนั้น ก็น่าจะมาจากความสะดวก ของการใช้งานและการเข้าถึงนั่นเอง แถมด้วยอินเทอร์เฟซ มีความเรียบง่าย ทำให้การใช้งาน ไม่ได้ซับซ้อนและยุ่งยาก

แถมยังใช้งานได้ ในหลากหลายอุปกรณ์ ที่สามารถเชื่อมต่อ ได้กับอินเทอร์เน็ต และยังทำงานร่วมกันได้กับบริการอื่น ๆ ของกูเกิ้ลอีกด้วยอย่าง กูเกิ้ลปฏิทิน หรือว่า จีเมลล์ เลยยิ่งทำให้มีความง่ายดายมากยิ่งขึ้น สะดวกมากยิ่งขึ้น

อีกอย่างที่เราเห็น ก็คือการให้ความสำคัญ เกี่ยวกับเรื่องของความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัว คือได้มีการตั้งรหัส การใช้งานเรียกว่าถามทุกครั้ง ตั้งแต่ต้นทาง จนกระทั่งถึงปลายทาง เรียกได้ว่าการใช้งานกูเกิ้ลมีท ก็เลยมีฟีเจอร์ที่ถือว่า มีความปลอดภัย ในระดับสูงนั่นเองค่ะ

google meet

google meet ที่เขาใช้งานกันอยู่ทุกวันนี้สรุปแล้วกูเกิ้ลมีทคืออะไร?

จากที่เราได้ใช้งานเจ้ากูเกิ้ลมีท ในไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ทำให้รู้สึกได้ว่า การใช้งานแพลตฟอร์ม เรื่องการประชุมออนไลน์ กลับได้รับความนิยม เพิ่มมากยิ่งขึ้นเรื่อย และทำให้การทำงาน แบบระยะไกล

รวมไปถึงเรื่องการสื่อสาร ที่เห็นหน้าเห็นตาผู้สนทนา กลายเป็นเครื่องมือ ที่จำเป็นสำหรับธุรกิจในช่วงนี้ ไปเรียบร้อยแล้ว แต่ยังมีหลายคน ที่ไม่ค่อยทราบว่ากูเกิ้ลมีทคืออะไร และมีความสำคัญอย่างไร ซึ่งในบทความนี้มีคำตอบค่ะ

ลักษณะเด่น ๆ ของการใช้งานเจ้ากูเกิ้ลมีท คือเป็นแพลตฟอร์ม ที่มีความเรียบง่ายและใช้งานง่าย ทำให้ผู้ที่เข้าร่วมประชุม ไม่จำเป็นจะต้องมีสกิล อะไรทางด้านไอทีมากนัก และทำให้เกิดการประชุม ได้เพียงแค่กดคลิก ไม่กี่คลิกเท่านั้น ที่ต่อมาก็เลยกลายเป็น ตัวเลือกลำดับต้น ๆ ที่องค์กรต่าง ๆ นิยมเลือกใช้

โดยเฉพาะกูเกิ้ลมีท ยังมีฟีเจอร์หลากหลายของ chome เหมาะที่จะเป็นตัวกลาง การเชื่อมต่อให้เกิดการทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี และยิ่งผู้ใช้ยังสามารถ ทำการแชร์หน้าจอ ในระหว่างที่มีการประชุม

รวมไปถึงสามารถ แสดงภาพสไลด์ เอกสาร หรือแม้แต่เนื้อหาแบบอื่น ๆ ก็เป็นเรื่องที่สามารถทำได้แบบง่าย ซึ่งทุกสิ่งนี้สามารถเกิดขึ้น ได้แบบเรียลไทม์

อีกอย่างเรื่องของความปลอดภัย ก็อยู่ในระดับที่สูง ซึ่งจะเป็นตัวป้องกัน การเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต เรียกว่าเป็นความเหมาะสม กับธุรกิจอย่างแน่นอนค่ะ

google meet

มีข้อดีอะไรบ้าง ที่ทำให้กูเกิ้ลมีท เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของการประชุมทางธุรกิจ แบบออนไลน์

ถ้าจะบอกว่าการทำงาน ของกูเกิ้ลมีท มีความหลากหลายแล้ว ยังมีความได้เปรียบมากว่าแพลตฟอร์มอื่น ๆ อีกด้วย ซึ่งจะมีอะไรบ้าง เราลองไปตามดูกันค่ะ

1. เป็นส่วนประสานงาน ที่ทำงานได้แบบง่าย คือเป็นแพลตฟอร์ม ที่มีการเข้าถึงง่าย การประชุมและการใช้งาน ไม่ได้ต่างกันกับการประชุม หน้าต่อหน้าแต่อย่างใด ทำให้กลายเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของบรรดากิจการ ที่ต้องมีการพูดคุย และเห็นหน้ากันค่ะ

2. สามารถที่จะเข้าถึง ได้ในทุกอุปกรณ์ ที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งมีกันตั้งแต่ ใช้เชื่อมต่อผ่านทางคอมพิวเตอร์ พีซี แล็ปท็อป แท็บเล็ต และยังสามารถใช้งานได้กับgoogle meet ในโทรศัพท์ มือถือได้อีกด้วยค่ะ

3. มีฟีเจอร์ที่มาเป็นตัวช่วย ให้เกิดความสะดวก เรื่องของการสื่อสาร และยังสามารถทำงานร่วมกัน กับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ จากกูเกิ้ลอย่าง google lens ได้อีกด้วย

4. ที่สำคัญเลยคือมีความเป็นส่วนตัวสูง แถมยังปลอดภัย ที่สามารถทำให้เกิด การเข้ารหัสแบบ end to end เป็นการเข้ารหัสแบบปกป้องข้อมูล ของผู้ใช้งานและบุคคล ไม่พึงประสงค์ที่จะเข้ามา ก่อกวนหากไม่ได้รับอนุญาต

5. นอกจากนี้ยังสามารถ ช่วยเรื่องของการปรับขนาด ที่รองรับการประชุมได้ถึง 250 คนเลยทีเดียว

google meet

ขั้นตอนและวิธีใช้งาน ระหว่างการประชุม

หลายคนอาจจะ ยังมีข้อสงสัยที่ว่าแล้วgoogle meet ใช้ยังไง ถ้าจะบอกว่ากูเกิ้ลมีท เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์ม ที่อเนกประสงค์ก็น่าจะได้ เพราะว่ามันช่วยจัด ให้เกิดการประชุม ได้อย่างง่ายดาย แถมยังเป็นตัวช่วย อำนวยความสะดวกให้อีกหลาย ๆ อย่างตามคุณสมบัติที่ทางกูเกิ้ล ได้จัดไว้ให้แล้วอย่างดี

1. สำหรับเรื่องของการกด เพื่อเข้าร่วมประชุมที่คล้าย video call ก่อนอื่นคุณจะเป็น ที่จะต้องได้รับลิงก์ หรือว่ารหัสคำเชิญจากทาง เจ้าของห้องประชุม และเพียงแค่คุณกดลิงก์ดังกล่าว เข้าไปแล้วในหน้าแรก คุณก็จะเห็นว่า ระบบมีการแจ้งให้สามารถ เปิดหรือว่าปิดใช้งานกล้อง ก่อนที่คุณจะเข้าห้องซะอีก แถมยังสามารถเปิดไมค์โครโฟน ตามที่ระบบได้แจ้งมาอีกด้วยค่ะ

2. และหากว่าเมื่อคุณอยู่ ในช่วงของการประชุม คุณก็ยังสามารถ ทำการตั้งค่าเพื่อปรับแต่ง ไม่ว่าจะเป็นการปิดกล้อง หรือปิดเสียงไมค์ที่จะพูด หรือแม้แต่สามารถเปิด หรือว่าปิดคำบรรยายใต้ภาพ ก็สามารถทำได้อีกด้วยค่ะ

3. นอกจากนี้คุณยังสามารถ ทำการแบ่งปันหน้าจอ ซึ่งหากต้องการที่จะคน ในห้องประชุมได้เห็นโดยพร้อม ๆ กันก็เพียงแค่คลิกไปที่ปุ่ม นำเสนอ พร้อมกับเลือกเนื้อหา ที่ต้องการจะแบ่งปันได้ทันที ซึ่งก็ยังจะเลือกได้อีกนะคะ ว่าต้องการแบบทั้งหน้าจอ หรือว่าอยากจะเลือก แค่บางส่วนก็ได้ด้วยเช่นกัน

4. คุณสามารถสื่อสาร กับผู้เข้าร่วมประชุม ได้กับทุกคนเลย ในระหว่างการประชุม ซึ่งก็แค่เปิดไมล์ของตัวเองและคุยกัน แต่ถ้าหากว่าไม่สะดวก ที่จะพูดเป็นเสียง ในขณะที่คนอื่นกำลังบรรยาย ก็อาจจะใช้วิธีการแชท กันตัวต่อตัวก็ได้อีกด้วยค่ะ

5. และเมื่อสิ้นสุดการประชุม ผู้ดูแลห้องหรือที่เราเรียกว่า โฮสต์ก็สามารถทำการยุติ ห้องประชุมของทุกคน ได้ด้วยการกดไปที่ปุ่ม สิ้นสุดการประชุม ที่อยู่ทางด้านล่างของหน้าจอ

video call

 

ข้อแนะนำเกี่ยวกับฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่อาจจำเป็นต้องใช้ในระหว่างการประชุม

1. อันดับแรกก็คือเรื่อง ของการแชร์หน้าจอ จะเรียกว่าเป็นฟีเจอร์หลัก ก็น่าจะได้เพราะว่าการแชร์หน้าจอ กับผู้เข้าประชุมคนอื่น ก็แค่คลิกไปที่ปุ่ม icon นำเสนอ ต่อจากนั้นคุณก็สามารถ เลือกเนื้อหาที่อยากจะให้เพื่อน ๆ ในห้องได้เห็น แถมยังสามารถทำได้ ทั้งในเว็บไซต์และใน app ได้เลยค่ะ

2. ถ้าหากว่าคุณอยากจะเปลี่ยน ภาพพื้นหลังด้วยล่ะก็ สามารถทำได้จากการใช้ฟีเจอร์นี้ ด้วยการกดที่เมนูสามจุด แล้วก็เลือกภาพพื้นหลัง ที่คุณอาจจะตั้งค่าและเลือก เอาไว้ก่อนแล้ว ซึ่งฟีเจอร์ในการเปลี่ยนภาพพื้นหลังนี้ จะเป็นตัวช่วยให้คุณ มีความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น ทำให้เพิ่มความมั่นใจ ให้กับคุณได้ในระดับสูงอีกด้วยค่ะ

3. นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ ที่สร้างคำบรรยาย ให้คุณแบบเรียลไทม์ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ สำหรับผู้ที่มีความบกพร่อง ทางการได้ยิน หรือบางคนที่ต้องการ จะเกาะติดการบรรยายอย่างใกล้ชิด ซึ่งการเปิดใช้คำบรรยาย ก็ไม่ยากค่ะแค่กด ที่จุดสามจุดแล้วเลือก เปิดคำบรรยาย ก็จะได้คำบรรยายเกิดขึ้นมาให้เลยทีเดียวค่ะ

4. ฟีเจอร์ของการเปิดและปิดเสียง ซึ่งการเปิดและปิดเสียงไมโครโฟน เป็นอีกคุณสมบัติพื้นฐานอีกอย่างที่ทาง กูเกิ้ลมีท อนุญาตให้ทำได้ผ่านทางไอคอน ที่อยู่ทางด้านล่างหน้าจอ ซึ่งการปิดไมค์โครโฟน ขณะที่มีผู้บรรยายก็จะเป็น อีกวิธีหนึ่งที่ไม่ให้ เกิดการรบกวนเพื่อน ๆ ที่อยู่ในห้องประชุมค่ะ

5. หรือถ้าหากมีความจำเป็น ที่จะต้องเกิดการสนทนา กับผู้เข้าร่วมประชุม เพื่อต้องการสื่อสารกับผู้ร่วมประชุม ในขณะที่กำลังมีการประชุมอยู่ ซึ่งคุณสามารถทักเป็นแชท หาส่วนตัวได้ ซึ่งสามารถคลิก ไปที่ไอคอนแชท ที่จะอยู่ทางด้านล่างของหน้าจอ ซึ่งจะเป็นอีกช่องทางหนึ่ง ที่จะให้คุณได้มีโอกาส สื่อสารกับผู้เข้าร่วมประชุม ได้อีกหนึ่งช่องทางค่ะ

โดยสรุปแล้วกูเกิ้ลมีท ก็คือหนึ่งในแพลตฟอร์ม การประชุมวิดีโอที่ง่าย และปลอดภัย แถมยังเกิดความหลากหลาย ในการสื่อสารกับผู้เข้าประชุม ทำให้กูเกิ้ลมีท ก็เลยกลายเป็นสิ่งอำนวยความสะดวก ที่จะมุ่งเน้นให้เกิดการบริการ ที่ผสมผสานในเรื่องของ การทำความเข้าใจกับคนกลุ่มใหญ่

ทำให้กูเกิ้ลมีทก็เลย กลายเป็นตัวเลือกยอดนิยม ที่มีอยู่ในเวลานี้เลยทีเดียวค่ะ ซึ่งถ้าหากว่าใครเล็งเห็นแล้ว ว่ามันมีความสำคัญก็รีบไปโหลดgoogle meet เวอร์ชั่นล่าสุด มาใช้งานกันได้เลยค่ะ

บทความพิเศษที่น่าสนใจ

เรียบเรียงโดย NANAMI

Categories
รีวิว

แนะนำ google lens แอบค้นหาด้วยภาพ หลักการใช้งาน หนึ่งแอพพลิเคชันดีๆ จากกูเกิล

google lens แอปค้นหาด้วยรูป หนึ่งแอพพลิเคชันดีๆ จากกูเกิล ใช้งานง่าย สะดวกมากขึ้น

วันนี้เราจะมา รีวิว แอพพลิเคชันน่าใช้อีกหนึ่งตัวอย่าง google lens (กูเกิ้ล เลนส์) อีกหนึ่งแอป จากกูเกิล ต้องบอกว่าเจ้าแอป กูเกิ้ล เลนส์ เป็นแอป ค้นหาด้วยภาพ ผ่านการพัฒนาโดยกูเกิล ซึ่งใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะของการค้นหาด้วยภาพ เพื่อวิเคราะห์ภาพถ่ายด้วยกล้องสมาร์ตโฟน

ถึงแม้ว่าในตอนนี้แอป จะได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่การพัฒนานั้น กลับยังไม่ไม่เปลี่ยนแปลงไปเท่าไหร่ ในปี 2014 Google ๆ ได้เปิดตัว กูเกิ้ล เลนส์ ซึ่งเป็นแอปที่มีการค้นหาด้วยภาพ เป็นครั้งแรก โดยแอปออกแบบมาเพื่อจดจำ และวิเคราะห์ภาพด้วยกล้องสมาร์ตโฟน โดยจะให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับรูปที่ถ่าย

ต้องบอกว่าในช่วงแรก app ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะมีปัญหาในเรื่องการจดจำ และการระบุวัตถุที่แม่นยำจนในปี 2017 Google ได้ประกาศเปิดตัว Google Lens Search ผ่านระบบ android และ IOS ซึ่งตัวแอปเหมือนนำข้อผิดพลาดของแอป ในปี 2014 มาแก้ไข เพราะเจ้า GoogleLens camera ตัวนี้จะมีความแม่นยำมากขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยใช้อัลกอริทึมของเครื่องในการเรียนรู้ เพื่อจดจำและวัตถุภายในภาพ

ซึ่งในการเปิดตัวแอปนี้ เน้นไปที่การจดจำวัตถุเป็นหลัก ทำให้ผู้ใช้นั้นๆ สามารถระบุและเรียนรู้เพิ่มเติมภายในภาพนั้นได้ เมื่อเวลาผ่านไป แอปได้พัฒนาจนมีคุณสมบัติที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งรวมไปถึงการจดจำข้อความ การระบุจุดสังเกต และการสแกนบาร์โค้ด

และในปี 2018 Google ประกาศว่า googlelens จะร่วมกับ Google Photos เป็น Google Lens camera ทำให้ผู้ใช้สามารถหาวัตถุได้จากรูปภาพของคุณได้ ในปี 2019 GoogleLens จะร่วมเข้ากับ Google Search ช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูลโดยใช้กล้องสมาร์ตโฟนได้ ในปี 2020 GoogleLens ประกาศคุณสมบัติใหม่หลายอย่างไม่ว่าจะเป็น ระบุและแปลข้อความด้วยลายมือได้

google lens

google lens หลักการทำงานของเทคโนโลยีอัจฉริยะค้นหาด้วยการถ่ายรูปและการสแกนสิ่งของ

ต้องบอกว่า googlelens เป็นเทคโนโลยี ที่ผลิตออกมาเพื่อช่วยให้การใช้งานสมาร์ตโฟนได้ดียิ่งขึ้น เหมือนกันกับ google ฟอร์ม ซึ่งผู้ใช้สามารถใช้แอปผ่านสมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ตได้ เป็นเทคโนโลยีจดจำภาพของวัตถุหรือสิ่งของ เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับของชิ้นนั้นๆ ทำให้ผู้ใช้สามารถที่จะรู้เรื่องราวรอบๆ ตัวได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น หลักการทำงานหลักๆ คือการจดจำวัตถุหรือสิ่งของ จากนั้นก็ให้ข้อมูลของชิ้นนั้นให้กับผู้ใช้

ซึ่งการทำงานสำคัญคือ การจดจำรูปภาพ ซึ่งระบบข้อมูลของ GoogleLens scan จะต้องมีฐานข้อมูลเกี่ยวกับรูปเยอะมากๆ และฐานข้อมูลของ กูเกิ้ล เลนส์ มีทั้ง คน สัตว์ สิ่งของ พืช ซึ่งเราจะมายกตัวอย่างของการให้ข้อมูลเกี่ยวกับดอกไม้ ผู้ใช้ก็จะได้รู้เกี่ยวกับชื่อ ดอกไม้ที่พบได้ทั่วไป และลักษณะของ flower

และนอกจากบอกข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับสิ่งของ หากว่าคุณอยากรู้คุณสมบัติทั่วไปของผลิตภัณฑ์ ผู้ใช้ก็แค่ถ่ายรูปของ product จากนั้น GoogleLens open ข้อมูลพื้นฐาน เช่น ผลิตโดยใคร ซื้อได้ที่ไหน มีคุณสมบัติเด่นยังไง มีราคาเท่าไร นอกจากจะค้นหาด้วยรูปได้ ความอัจฉริยะอีกอย่างของสามารถค้นหาจากข้อความที่เราเขียนลงบนแอป กูเกิ้ล เลนส์ อีกด้วย

เช่นถ้าหากว่าผู้ใช้ถ่ายรูปเมนูอาหาร แอปจะอ่านข้อความผ่านรูปภาพ แล้วทำการประมวลผลข้อมูลออกมาถึงส่วนผสมและข้อมูลทางโภชนาการของอาหารนั้นๆ

google lens

กูเกิ้ลเลนส์ วิธีการใช้ GoogleLens-Chrome ประโยชน์ใช้สอย ของแอป ที่ไม่ธรรมดา!!!

แอป กูเกิ้ล เลนส์ เป็นเทคโนโลยี AI ในการจดจำรูปภาพเพื่อช่วยคุณตามหาข้อมูลที่ต้องการรู้ได้รวดเร็ว และมีความแม่นยำในระดับหนึ่ง นอกจากนี้แอปยังทำงานร่วมกับบริการต่างๆ กูเกิ้ล ไม่ว่าจะเป็น กูเกิ้ล โฟโต้, กูเกิ้ล แอสซิส และ กูเกิ้ลเซิท

ต้องบอกว่าเป็น หนึ่งในแอป ที่มีประโยชน์มากพอสมควร วันนี้เราจะมาบอกประโยชน์ใช้สอย ของแอปพลิเคชันกัน เริ่มต้นจากคุณสมบัติหลักของแอป อย่างการค้นหาด้วยภาพ เราสามารถใช้แอป เพื่อค้นหาข้อมูลต่างๆ ด้วยการผ่านเลนซ์กล้องแค่ไม่กี่วินาที ทำให้คุณค้นหาข้อมูล ของวัตถุและสถานที่ ได้ไม่ยากโดยผ่าน กระบวนการถ่ายรูปเท่านั้นเอง ข้อมูลที่จะได้รับเช่น ชื่อ ประวัติ และบทความที่เกี่ยวข้อง

ยิ่งถ้าหากว่าเราเดินทางไปเที่ยวที่ไหนสักที่ แล้วอยากได้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ข้อแนะนำแอปนี้เลยค่ะ ประโยชน์ข้อต่อไปเป็นการแปลภาษา อย่างที่เราเคยกล่าวไปแล้วว่า แอป ยังสามารถอ่านข้อมูลจากข้อความได้ ดังนั้นการแปลภาษาจังไม่ใช่เรื่องยากอะไร เพราะแค่ต่อกล้องไปที่ข้อความภาษาอังกฤษ แอปก็จะ translate ออกมาให้ผู้ใช้ทันที

ประโยชน์ถัดไปเป็นเรื่องของการค้นหาสินค้า อย่างที่เราบอกไปก่อนหน้านี้แล้วว่า ข้อดีอย่างของแอป คือสามารถบอกผู้ใช้ได้ว่า สินค้านี้มีขายที่ไหน มีคุณภาพแบบไหน มีคะแนนรีวิวมากน้อยยังไง และนอกจากการหาข้อมูลแล้ว แอปก็ยังมีข้อดีของการจดจำภาพ แยกข้อความจากรูปภาพ ทำให้การคัดลอง และวางข้อความในส่วนที่แยกออกมาแล้ว มันเรื่องง่ายไปเลยเมื่อมี googlelens

และนอกจากที่พูดไปทั้งหมดแล้ว GoogleLens-download มาไว้บนเครื่อง ก็ยังมีประโยชน์กับการศึกษาอีกด้วย สำหรับประโยชน์ในด้านการศึกษาคือผู้ใช้สามารถสแกนโจทย์คณิตศาสตร์ หรือสมการที่ซับซ้อน แอปก็สามารถให้คำตอบและจะบอกแนวคิดให้กับผู้ใช้ได้

ประโยชน์อย่างถัดไปเป็นประโยชน์ของแอป เกี่ยวกับการเข้าถึง ต้องบอกว่านอกจากประโยชน์ที่กล่าวมาแล้วแอปยังสามารถช่วย ผู้บกพร่องทางสายตา ด้วยการเปลี่ยนจากข้อความเป็นเสียงได้อีกด้วย ถือว่าเป็นแอปที่ดีเลยค่ะ ถ้าหากว่า วันข้างหน้าสามารถนำทางผู้บกพร่องทางสายตาด้วยคงดีมากกว่านี้มากแน่ๆ

google lens

กูเกิ้ลเลนส์ ในชีวิตประจำวัน นวัตกรรมใหม่ที่กำลังเปลี่ยนแปลงโลกอย่างไร

ต้องบอกว่าแอป กูเกิ้ล เลนส์ เป็นแอป ที่สร้างขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้มากขึ้น และแค่คลิกปุ่ม GoogleLens-iPhone ก็สามารถระบุวัตถุ หรือสิ่งที่เราต้องการรู้ได้ในทันที มันเลยกลายเป็นอะไรที่ดีมากๆ เลยค่ะ

สำหรับคุณสมบัติที่น่าประทับใจคือ การระบุสิ่งที่เราเจอได้ในทันที เช่น เราเจอดอกไม้ข้างถนน แล้วอยากรู้ว่าเป็นดอกอะไร ซึ่งเหมาะมากสำหรับคนที่เรียนพฤกษศาสตร์ หรือเพียงแค่อยากรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัตถุรอบๆตัว ก็สามารถเล็งกล้องไปที่สิ่งของ หรือข้อความนั้นๆ ได้ในทันที ถือว่าสะดวกมาก

และสำหรับใครที่ทำงานต่างประเทศ หรือมีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางไปทางประเทศ GoogleLens-Android ก็จะช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องนี้ให้กับผู้ใช้ ซึ่งจะบอกว่าในวันข้างหน้าแอป ยิ่งมีความจำเป็นกับเรามากขึ้น แล้วข้อดีอีกหนึ่งอย่างของแอป ที่เราชอบมากๆ เลย ก็คือการช่วยเหลือผู้บกพร่องทางสายตา ทำให้แอปมีผลกับการใช้ชีวิตประจำวันของผู้บกพร่องทางสายตา

เอาซะมากเลย พวกเขาสามารถรู้เรื่องราว รอบตัวผ่านเสียง จากแอป googlelens และต้องบอกว่ายิ่งอัปเดต ฟังก์ชันของแอป ก็ยิ่งมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยรวมแล้วถือว่าแอป เป็นเครื่องมือ ที่อาจจะมาเปลี่ยนวิถีชีวิตเราในวันข้างหน้า เพราะความสะดวกสบาย ของการหาผลิตภัณฑ์ และยังพาเรายังแหล่งช้อปปิ้งออนไลน์ แอปเลยทำให้เราใช้ชีวิตง่ายขึ้น สะดวกขึ้น และสนุกมากขึ้น

app

และนอกจากบทความนี้แล้ว เราก็อยากที่จะแนะนำบทความที่น่าสนใจอย่างบทความเรื่อง ต้นไม้น่ารักๆ และ รายชื่อเพลงฮิตติดหู

เขียนโดย -หลงวาริน-